ตลาดนัดจตุจักร ขีดเส้น 30 เม.ย. ขอคืนพื้นที่แผงเขียว ลุยฟ้องผู้ค้าค้างค่าเช่า 207 ราย

ตลาดนัดจตุจักร ขีดเส้น 30 เม.ย.นี้ ขอคืนพื้นที่โครงการ 30 สร้างแลนด์มาร์กใหม่ เดินหน้าฟ้องผู้ค้าค้างค่าเช่าแผง 207 ราย

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ศาลาว่าการ กทม. นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ประธานกรรมการบริหารสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการแถลงข่าว การบริหารงานภายในตลาดนัดจตุจักร ในประเด็นความโปร่งใสในการบริหารจัดการ การยกเลิกสิทธิแผงค้าและค่าปรับ รวมถึงแนวทางการบริหารพื้นที่และการพัฒนาตลาดเพื่อแก้ไขปัญหาระยะสั้นและระยะยาวโดยมีผู้บริหารสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารตลาดนัดจตุจักร เข้าร่วม

นายสุขสันต์กล่าวกรณีเก็บเงินค่าเช่าแผงค้าตลาดนัดจตุจักรที่มีข้อสงสัยว่าตลาดนัดจตุจักรมีการรับเงินแล้วออกใบเสร็จรับเงินแผงค้าโครงการ 30 (แผงเขียว) และลานเร่ บริเวณหอนาฬิกาแต่ไม่นำรายได้เข้าระบบตั้งแต่ปี 2562-2566 ปีละหลายล้านบาทนั้น ขอชี้แจงว่าเมื่อตลาดนัดจตุจักรรับชำระเงินค่าเช่าแผงค้าแล้ว งานการคลัง ตลาดนัดจตุจักรจะออกใบเสร็จรับเงินให้ผู้ค้าและจะรวบรวมจำนวนเงินที่ได้รับชำระในแต่ละวันจัดทำข้อมูลรายได้ประจำวันเข้าระบบส่งให้กับฝ่ายการคลังสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร โดยบันทึกบัญชีรวมเป็นหัวข้อ รายได้จากแผงค้า ซึ่งมีการแจกแจงเป็นแต่ละโครงการระบุตามรหัสบัญชีโครงการ เช่น โครงการ 1-29 โครงการ 30 โครงการ 31 (แผงค้าต้นไม้) ฯลฯ

ส่วนของลานเร่ บริเวณหอนาฬิกา จะบันทึกบัญชีรวมอยู่ในหัวข้อ รายได้จากพื้นที่ว่าง เมื่อถึงสิ้นเดือน ฝ่ายการคลังสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร จะบันทึกบัญชีรายได้ประจำเดือนเข้าระบบโดยระบุแต่เฉพาะหัวข้อ รายได้จากแผงค้า และรายได้จากพื้นที่ว่าง เท่านั้น ซึ่งเมื่ออ่านโดยไม่ทราบรายละเอียดการบันทึกบัญชีที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานกันอยู่จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ามีการทุจริตเงินรายได้ค่าเช่าแผงค้าตลาดนัดจตุจักรดังกล่าว ทั้งที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการบันทึกบัญชีระหว่างสองหน่วยงานสอบทานกันอยู่

ADVERTISMENT

สำหรับค่าเช่าแผงค้าตลาดนัดจตุจักร แผงค้าถาวร ค่าเช่า 1,800 บาทต่อเดือน แผงเขียวค่าเช่า 1,400 บาทต่อเดือน และแผงค้าต้นไม้ 900 บาทต่อเดือน โดย กทม.ต้องจ่ายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย 169 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2563-2565 เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ได้มีประกาศฯ งดจัดเก็บค่าเช่า ลดค่าเช่า เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้เช่าแผงค้าทุกสัญญาทำให้การจัดเก็บรายได้ลดลง และในปีงบประมาณ 2566-2567 มีการจัดเก็บรายได้เพิ่ม อาทิ ค่าบริหารส่วนกลาง ค่าทำเล ค่าใช้พื้นที่ว่างต่างๆ

นายสุขสันต์กล่าวต่อว่า การยกเลิกสิทธิแผงค้าเป็นไปตามสัญญา และค่าปรับกรณีจ่ายค่าเช่าล่าช้าที่ไม่ได้สูงเกินจริง แต่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดจากกรณีที่มีการกล่าวว่า กทม. ประกาศยกเลิกสิทธิแผงค้าโครงการ 30 (แผงเขียว) ผู้ค้า 529 ราย บริเวณลานหอนาฬิกา โดยไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าอย่างเป็นธรรมและไม่มีช่องทางให้สามารถอุทธรณ์หรือชี้แจงได้นั้น กทม.ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันพื้นที่บริเวณนี้ไม่มีความสวยงาม เหลือความกว้างเป็นทางเดินเพียง 9.0 เมตร จากเดิม 19.00 เมตร และทำให้ร้านค้ากึ่งถาวรที่เคยมีสภาพตั้งอยู่ด้านริมของพื้นที่ถูกบดบัง ระบายอากาศไม่ดี มีการร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อสัญญาให้สิทธิจำหน่ายสินค้าใกล้จะสิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.67 กทม.จึงมีนโยบายที่จะพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ให้มีความสวยงามเป็น Landmark ของนักท่องเที่ยวที่มาตลาดนัดจตุจักร ดึงคนให้เข้ามาสู่บริเวณลานหอนาฬิกาให้มากขึ้น โดยต้องสัญจรผ่านแผงค้าตามซอยแยกโครงการต่างๆ ที่ทำการค้าไม่ค่อยดี เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ADVERTISMENT

ทั้งนี้จึงได้ออกประกาศ เรื่องให้ผู้ค้าโครงการที่ 1-29 และ 31 มาจัดทำสัญญา ซึ่งหมายถึงจะไม่ต่ออายุสัญญาให้แผงค้าโครงการ 30 แต่ภายหลังสำนักงานตลาดได้ขยายเวลาให้สิทธิโครงการ 30 สามารถค้าขายได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย.68 ก่อนที่จะคืนพื้นที่ให้กับสำนักงานตลาดเพื่อให้ผู้ค้าได้มีโอกาสเตรียมรื้อย้ายและบรรเทาความเดือดร้อน สำนักงานตลาดได้เปิดโอกาสให้ผู้ค้ากลุ่มนี้ที่ไม่มีหนี้ค้างมาเลือกแผงค้าว่างที่มีอยู่ภายในตลาดนัดจตุจักรประมาณ 200 แผงค้า โดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า 60,000 บาท แต่มีผู้ค้ามาเลือกเพียง 15 ราย โดยแผงค้าโครงการ 30 มีจำนวนทั้งหมด 529 แผงค้า ติดค้างค่าเช่าไม่ยอมชำระ 122 แผงค้า ซึ่งสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ได้บอกเลิกสัญญาและจะส่งเรื่องฟ้องร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้เมื่อสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครได้แจ้งแนวทางในการเลือกขอรับสิทธิเช่าแผงค้าอื่นได้ (ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า) จึงมิใช่ผู้เดือดร้อนหรือได้รับความเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น จึงมิใช่ผู้มีสิทธิฟ้องคดี

ขณะที่ในส่วนค่าปรับกรณีชำระค่าเช่าล่าช้า ที่มีประเด็นกล่าวว่าอัตราสูงถึง 1,800% ต่อปีนั้น ในสัญญาที่มีมาตั้งแต่ปี 2562 ที่ กทม.รับมอบพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรจากการรถไฟแห่งประเทศไทยมาบริหาร ระบุค่าปรับกรณีมีการชำระค่าเช่าล่าช้าในอัตราวันละ 5% ของค่าเช่ารายเดือน หรือเท่ากับวันละ 90 บาท ซึ่งคู่สัญญาคือผู้ค้าก็รับทราบแล้วในการทำสัญญาเช่าและมีหน้าที่ที่จะต้องชำระค่าเช่าแผงค้าให้ตรงตามกำหนด มิใช่ปล่อยให้ค่าปรับเพิ่มขึ้นทุกวันโดยไม่สนใจมาชำระค่าเช่าเป็นระยะเวลานานจนยอดค้างชำระมีจำนวนที่สูง

โดยที่ผ่านมามีผู้ค้าที่มีหนี้ค้างชำระพร้อมค่าปรับมากกว่า 1,585 แผงค้าได้มารับสภาพหนี้และยินยอมผ่อนชำระค่าปรับในระยะเวลาไม่เกิน 36 เดือน จนปัจจุบันเหลือผู้ค้า จำนวน 207 แผงค้าที่ไม่ติดต่อชำระค่าเช่าพร้อมค่าปรับหรือยินยอมรับสภาพหนี้ (ส่วนใหญ่มาชำระค่าปรับ) สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครจึงได้มีหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาและให้คืนแผงค้า พร้อมดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image