‘ผอ.คลองเตย’ ปลื้มฟีดแบ๊กย้าย ‘ตลาดลาว’ ลั่นเชื่อใน ‘ชัชชาติ’ มองทะลุปัญหา ให้อิสระในการแก้

‘ผอ.เขตคลองเตย’ เชื่อมั่นใน ‘ชัชชาติ’ มองปัญหา กทม.ออก – ปลื้มฟีดแบ๊กหลังย้าย ‘ตลาดลาว’ ใช้เวลากว่า 20 ปีคืนทางเท้าสำเร็จ ชมหลายภาคี ช่วยกัน

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ Ballroom 1 ชั้น 1 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) จัดงานสัมมนา “Matichon Leadership Forum 2025 Trust Thailand : เชื่อมั่นประเทศไทย” เพราะความเชื่อมั่นคือพลังสู่ “ความจริง” ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.

บรรยากาศเวลา 13.00 น. หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมสัมมนาในช่วงเช้า ก่อนเข้าสู่เวทีสัมมนาต่อในภาคบ่าย มีประชาชนที่มีความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งลงทะเบียนเข้าอย่างคับคั่ง

จากนั้นเวลา 14.50 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาถึง โดยมีผู้บริหารเครือมติชนให้การต้อนรับ นำโดย นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), นายสุพัด ทีปะลา บรรณาธิการบริหาร กอง บก.มติชน พร้อมถ่ายรูปภาพร่วมกัน

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ น.ส.เกศจริน สามิภักดิ์ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย เดินทางมาร่วมให้การต้อนรับและฟังการบรรยาย โดย นายชัชชาติ ผู้ว่าราชการ กทม. ได้พูดคุยและถาม-ตอบ ถึงความคืบหน้าการทำงานในเขตคลองเตย ในระยะเวลาต่อมา

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติได้เลือกซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์มติชนที่นำมาวางจำหน่ายในงาน ได้แก่ รวมข้อมูลวรรณกรรมวิชาการ โซเมีย, ไท-ไต ใน ‘นิธิ เอียวศรีวงศ์’ ซึ่งเขียนโดย นิธิ เอียวศรีวงศ์ และคณะ ก่อนจะขึ้นเวที Trust Thailand : เชื่อมั่นประเทศไทย ในลำดับต่อไป

น.ส.เกศจริน ผอ.เขตคลองเตย กล่าวว่า คำว่าเชื่อมั่นประเทศไทย เชื่อว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ เรายินดีรับคนจากทั่วโลกมาเยี่ยมเยียน และแวะเวียนมาท่องเที่ยว หรือจะมาด้วยสาเหตุอื่นๆ เรายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามา

น.ส.เกศจริน สามิภักดิ์ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย

ไม่ว่าจะมาทำธุรกิจ พักผ่อน มาทำมาหากิน มาเยี่ยมญาติหรือมาท่องเที่ยวประเทศไทย เราเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยแล้วก็เราเป็นเมืองที่ให้การช่วยเหลือซึ่งกัน อีกทั้งประเทศไทยเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ และที่สำคัญคือเรารักและเอ็นดูซึ่งกันและกัน

“มุมมองของดิฉัน ต่อความเชื่อมั่นกรุงเทพฯ มองว่าผู้ว่าฯ เป็นผู้นำที่มีความชัดเจนและทำงานจริงในพื้นที่ เป็นคนไม่ได้ทำงานที่โต๊ะ และก็เป็นคนที่มองปัญหาออก สามารถที่จะวางแผนการทำงาน มอบหมายบุคลากร มอบหมายเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง และสามารถได้ทำโดยอิสระ โดยที่ผู้ว่าฯไม่ได้ตามไปกำกับดูแลแบบใกล้ชิดหรือว่าตามไปจับผิด แต่สิ่งที่ผู้ว่าฯต้องการคือ ผลของงานที่มันเกิดขึ้น ขอให้มาชัดเจนแค่นั้นเอง

ผอ.มองว่า ในพื้นที่ 50 เขต ทุกเขตมีบริบทที่ต่างกันไป แต่การทำงานของบุคลากร เราทำงานไม่ต่างกัน แต่เราต้องทำงานเพื่อประชาชน เพื่อการแก้ไขปัญหาให้เขาได้รับความพึงพอใจ ให้เขารู้สึกว่า เขาอยู่ในเมืองที่มีความปลอดภัย มีการเดินทางที่สะดวก มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีอาหารการกินที่อร่อย ในขณะเดียวกันสามารถทักทายกันได้เหมือนอยู่ในครอบครัวเดียวกัน” น.ส.เกศจรินกล่าว

เมื่อถามว่า มีความเชื่อมั่นต่อเขตคลองเตย อย่างไร?

น.ส.เกศจรินกล่าวต่อว่า การมาอยู่เขตคลองเตย ซึ่งเป็นสิ่งไม่ได้คาดฝันมาก่อน แต่ว่าพอมาอยู่แล้ว ผอ.รักคลองเตยมาก ยอมรับอย่างหนึ่ง เรื่องการทำงานที่นี้ชัดเจน ทั้งต่อบุคลากรและประชาชนในพื้นที่ซึ่งน่ารักทุกคน

 

ส่วนงานไม่ได้เป็นงานหนัก เป็นงานที่มีเข้ามาเรื่อยๆ มันมีเรื่องให้เราทำ ให้เราคิดทุกวัน แล้ว ผอ.เป็นคนที่ชอบทำงานอยู่แล้ว รู้สึกว่าคลองเตยเป็นเมืองที่ “น่าอยู่”

 

บริบทที่น่าสนใจคือ คลองเตยเด่นเรื่องของอาหารการกิน ในเรื่องของการท่องเที่ยว เรื่องของการพักผ่อน เรื่องของที่อยู่อาศัย ตลอดจนน้ำใจของประชาชนที่มีต่อผู้อื่น

“ผอ.ไม่ได้ทำงานเก่งคนเดียว แต่ ผอ.มีบุคลากรที่เยี่ยม แล้วก็เข้าใจเนื้องานของตัวเอง รับผิดชอบงานของตัวเองเชื่อมั่นว่าทุกคนที่มาคลองเตยแล้วมีความสุข ถึงแม้คุณจะแค่ขับรถนั่งผ่านไป ผ่านมา แต่ก็รู้สึกได้ว่าที่นี่คือคลองเตย ที่นี่คือที่ที่น่าอยู่ ที่นี่เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน” น.ส.เกศจรินเผย

น.ส.เกศจรินกล่าวถึงเรื่องตลาดลาวด้วยว่า ตลาดลาวเป็นพื้นที่ทางเดินสาธารณะ เป็นทางเท้า ซึ่งแต่ก่อนเขาได้ประกาศเป็นจุดผ่อนผัน ให้มีการค้าขายได้ 20 ปี มีการค้าขายกันมาโดยตลอด แต่มีการบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ แล้วก็อาจจะมีการสร้างปัญหาต่อประชาชนที่ใช้พื้นที่

แต่พอมีการดำเนินการที่จะรื้อตลาด ซึ่งมีก่อนหน้านี้หลายครั้ง แต่ว่าไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ในยุคที่ ผอ.มา ประสบผลสำเร็จได้ เพราะ

1.มีเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะเทศกิจ มีการวางแผนเป็นสเต็ป มีการประชุมผู้ค้า พ่อค้า แม่ค้าให้ทำความเข้าใจ ว่าคุณขายอยู่ในจุดผ่อนผัน ซึ่งมีการยกเลิกไปแล้ว ทางเขตต้องดำเนินการตามกฎหมาย

2.เราหาที่ให้คุณขาย เรามีพื้นที่สำรองไว้สำหรับคุณ สามารถค้าขายต่อเนื่องได้

3.เรามีหน่วยงานในกรุงเทพฯ และนอกกรุงเทพฯ ช่วยเราเข้าดำเนินการรื้อโครงสร้างอาคาร รื้อโครงสร้างต่างๆ ที่ไม่ใช่ของ กทม. แล้วก็อยู่ในพื้นที่ทางเท้า ซึ่งจะมีการปรับภูมิทัศน์ใหม่ โดยเราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

 

“อยากบอกว่าปัจจัยที่ทำให้งานสำเร็จได้ก็คือ 1.ผู้ค้าให้ความร่วมมือ 2.การใช้กฎหมาย เพื่อให้มันเกิดผล และ 3.ภาคีเครือข่าย ทั้งในกรุงเทพฯ และนอกกรุงเทพฯ ที่เข้ามาช่วยเรา”

“และที่สำคัญคือประชาชน ให้ช่วยกันดูแลพื้นที่ ตอนนี้มีการปรับภูมิทัศน์ มีการตีเส้นจราจรใหม่ มีการขยายเลนจราจรเพื่อให้การบริหารจัดการในพื้นที่ตรงนั้น สามารถขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี” น.ส.เกศจรินกล่าวทิ้งท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายชัชชาติขึ้นเวทีสัมมนาเสร็จสิ้น นายนฤตย์ เสกธีระ บรรณาธิการ กอง บก.มติชน ได้มอบของที่ระลึกเป็นหนังสือศิลปวัฒนธรรม พร้อมถ่ายภาพร่วมกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image