เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ด้วยวัคซีน ว่า สปสช. มีกลไกในการส่งเสริมป้องกันโรคให้กับคนไทย โดยกรณีโรคไข้หวัดใหญ่นั้น สปสช.ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดหาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในทุกปี เฉลี่ยปีละ 4.5 ล้านโดส สำหรับปี 2568 สปสช.มีสต๊อกวัคซีนอยู่ 1.4 แสนโดส ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ เป็นวัคซีนที่เตรียมไว้รองรับเหตุระบาด และเป็นการฉีดให้กับหญิงตั้งครรภ์ที่สามารถเข้ารับวัคซีนได้ตลอดทั้งปี
นพ.จเด็จ กล่าวว่า สำหรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ล็อตปี 2568 สปสช.สั่งซื้อเรียบร้อยแล้วเป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ รวมทั้งสิ้น 4.57 ล้านโดส โดยมีกำหนดการส่ง 3 ล็อต ในเดือนเมษายน 1.5 ล้านโดส, เดือนพฤษภาคม 2 ล้านโดส และ เดือนมิถุนายน 2 ล้านโดสเศษ
“ซึ่งเมื่อวัคซีนเข้ามาถึงก็จะตรงกับช่วงที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป (ให้บริการฉีดตลอดทั้งปี) 2.เด็ก อายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีทุกคน (หมายถึง กลุ่มเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนเต็มจนถึงอายุ 2 ปี 11 เดือน 29 วัน) 3.ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4.บุคคลอายุ 65 ปีขึ้นไป 5.โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ที่มีอาการ 6.โรคอ้วน (น้ำหนัก>100 กิโลกรัม หรือ BMI >35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) และ 7.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้” นพ.จเด็จ กล่าวนอกจากนี้ เลขาธิการ สปสช. กล่าวถึงความกังวลหากเกิดการระบาดว่า ในกลไกการจัดหาวัคซีนหลักๆ มี 3 ทาง ได้แก่ 1.จัดหาโดย สปสช. ที่จะนำเข้ามาปีละประมาณ 4.5 ล้านโดส 2.กรมควบคุมโรค สธ. เพื่อใช้ในการควบคุมกรณีมีการระบาด และ 3.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่สามารถจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ ฉะนั้น หากเกิดการระบาดขึ้น ก็จะมีวัคซีนในส่วนนี้เข้าไปควบคุมพื้นที่ระบาด อย่างไรก็ตาม สปสช.ตระหนักถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ขณะนี้กำลังหารือร่วมกับกรมควบคุมโรคว่า จะต้องเร่งนำเข้าวัคซีนให้เร็วขึ้นหรือไม่
“นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ เพิ่มเติม อย่างที่ผ่านมา มีการพิจารณาให้ฉีดวัคซีนให้กับผู้ต้องขังเพื่อลดการระบาดในเรือนจำ ซึ่งตอนนี้กรมควบคุมโรคได้เสนอว่า อาจจะขยายอายุการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในเด็ก จาก 6 เดือน ถึง 2 ปี ขยายให้ถึง 5 ปี เป็นต้น” นพ.จเด็จ กล่าว