บอร์ดประกันสังคมตีกลับ ‘สูตรบำนาญ’ ใหม่ ‘ษัษฐรัมย์’ ขอโทษผู้ประกันตน ม.39 กว่า3แสนคน เก้อ!

บอร์ดประกันสังคมตีกลับ ‘สูตรบำนาญ’ ใหม่ ‘ษัษฐรัมย์’ ขอโทษผู้ประกันตน ม.39 กว่า3แสนคน เก้อ!

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ชุดที่ 14 ครั้งที่ 4/2568 โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดประกันสังคม เป็นประธาน ทั้งนี้มีวาระการพิจารณาการปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพของผู้ประกันตนมาตรา 33 และ มาตรา 39 รวมถึงเรื่องการบริหารอื่นๆ แต่ปรากฎว่าที่ประชุมได้ขอเลื่อนวาระดังกล่าวออกไปก่อน

นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน ในบอร์ดประกันสังคม เปิดเผยหลังการประชุมว่า วันนี้ต้องขอโทษต่อผู้ประกันตน ตามวาระที่ได้แจ้งไว้เรื่องการปรับสูตรคำนวณบำนาญใหม่ ที่เราพยายามอย่างเต็มที่ ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาในบอร์ดฯ และจะยกไปพิจารณาในการประชุมครั้งหน้าในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคม 2568 เนื่องจากยังไม่สามารถสื่อสารให้เกิดความเข้าใจโดยรวมได้ ส่วนจะมีผลบังคับใช้เมื่อไรนั้น ขอให้ประชาชนให้ความสนใจและติดตามต่อไป

“โดยผลการประชุมในวันนี้ จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตนมาตรา 39 กว่า 3 แสนคน ที่เราเคยคำนวณไว้ว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์ส่วนนี้เพิ่มโดยตรง ส่วนนี้ผมขออภัยผู้ประกันตนที่ติดตามทีมประกันสังคมก้าวหน้า” นายษัษฐรัมย์ กล่าว

ADVERTISMENT

นายษัษฐรัมย์ กล่าวว่า ทีมประกันสังคมก้าวหน้าพยายามสื่อสารเพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตนอย่างเต็มที่ โดยมีประชาชนมาตรา 39 ที่ได้รับความเจ็บปวด เมื่อต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม 432 บาทต่อเดือน แต่จะได้รับเงินบำนาญเพียงแค่กว่า 1,000 บาท ดังนั้น เงินกองทุนมหาศาลแบบนี้ ต้องอยู่ในที่สว่าง ต้องส่งสารให้ทุกคนได้ยิน

“การคำนวณสูตรนี้ ได้นำเสนอผ่านอนุกรรมการฯตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เป็นสูตรคำนวณที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อและค่าครองชีพ และไม่ได้มีความซับซ้อนมากขนาดนั้น คุณเคยได้รับเงิน 5,000 บาท เมื่อ 20 ปีก่อน สูตรตัวนี้จะถูกเอามาคำนวณใหม่ว่า เทียบเท่ากับได้เงินเดือน 7,000 บาท ในปีปัจจุบัน เพราะค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลงไป และจะใช้การคำนวณเงินเดือนตลอดอายุทำงาน แน่นอนว่า ประกันสังคมจะต้องใช้เงินเยอะขึ้น แต่ทางฝ่ายวิจัยได้คำนวณมาว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของกองทุนฯ ซึ่งในระยะ 10 ปี จะใช้เงินราว 6 หมื่นล้านบาท จากสถานะกองทุนฯ ที่มีเงินจำนวน 2.6 ล้านล้านบาท แต่จะช่วยผู้ประกันตนได้มากกว่า 3 แสนคน ที่ได้รับประโยชน์โดยตรง พร้อมกับการชดเชยผู้ที่ได้รับเงินบำนาญน้อยลงภายใต้เงื่อนไขสูตรบำนาญใหม่” นายษัษฐรัมย์ กล่าว

ADVERTISMENT

นายษัษฐรัมย์ กล่าวอีกว่า หากเราไม่สามารถทำให้เรื่องนี้ผ่านได้ จะเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ได้เป็นปัญหาของความซับซ้อนของสูตร แต่เป็นปัญหาที่เรามาจากจักรวาลคนละชุด จักรวาลความเชื่อที่ว่าคนต้องมีคุณภาพชีวิตกับความเชื่อที่ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องปากกัดตีนถีบเพื่อที่จะมีชีวิตธรรมดา ซึ่งมติในที่ประชุมคือ ให้กลับไปศึกษาและนำเสนอมาอีกครั้งหนึ่ง

“สิ่งที่อยากสื่อสารคือ วิกฤตความเชื่อมั่นเมื่อช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา การบริหารงบประมาณมากกว่า 5 พันล้านบาทต่อปี ที่เกิดขึ้น เมื่อกองทุนฯไม่โปร่งใส จึงเกิดการตั้งคำถามเหล่านี้ สิ่งที่กำลังทำอยู่ตลอดเวลาคือทำให้กองทุนฯมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเราเห็นว่าการจัดทำแอพพลิเคชั่นมีงบประมาณที่ไม่เหมาะสม เราจึงตรวจสอบ สิ่งที่เรากำลังจะทำต่อไปในระยะ 1 ปีที่เหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นบำนาญ การปรับเงินสงเคราะห์บุตร การเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน และสิ่งที่เราทำมาโดยตลอด จึงต้องใช้แรงขับเคลื่อนของประชาชนเข้าช่วยผลักดันให้อยู่ในที่ที่มีแสงสว่าง เพื่อสิทธิประโยชน์ที่เป็นธรรมต่อผู้ประกันตนทุกคน” นายษัษฐรัมย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงคณะกรรมการการแพทย์ (บอร์ดแพทย์) กองทุนประกันสังคม ที่จะหมดวาระ นายษัษฐรัมย์ กล่าวว่า ในวันนี้ยังไม่มีวาระบอร์ดแพทย์ แต่เป็นสัญญาณที่ดีจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน งบประมาณการแพทย์ของประกันสังคมที่มี 7-8 หมื่นล้านบาท ก็จะกลับมาสู่แสงสว่างและใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image