เปิดรายละเอียด สูตรบำนาญ ‘ษัษฐรัมย์’ ยันไม่กระทบกองทุน ชี้ม.39 ได้เพิ่มเฉลี่ย 1 พันบาท
ความคืบหน้าหลังจากที่มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งวาระสำคัญคือ เรื่องของการปรับสูตรบำนาญชราภาพให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 แต่ในที่ประชุมยังไม่มีการพิจารณาประเด็นดังกล่าว โดยให้นำกลับไปศึกษาและเสนอในที่ประชุมในครั้งถัดไปในเดือนมีนาคม 2568 นั้น
วันนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2568) นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน ในบอร์ดประกันสังคมได้เปิดเผยถึงรายละเอียดในการผลักดันประเด็นดังกล่าวถึงการอธิบายการคำนวณบำนาญสูตรใหม่ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. เงินบำนาญชราภาพ จะปรับสูตรการคำนวณใหม่ จากเดิมเป็นการคำนวณจากเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย เปลี่ยนเป็นใช้คำนวณเงินเดือนตลอดอายุทำงานจริง เนื่องจากพบปัญหา คือการที่คนไทยส่วนมากเงินเดือนลดลงช่วงท้ายของการทำงาน ถูกเลิกจ้าง ฯลฯ ผู้ประกันตนส่งฐานรายได้ 15,000 บาท มา 20ปี ส่งเงินสมทบในมาตรา 39 จำนวน 4,800 บาท มาเป็นเวลา 5 ปี บำนาญจาก 6,000 บาท จะเหลือ 1,600 บาทต่อเดือน
2. การใช้สูตรบำนาญใหม่ไม่ได้กระทบนายจ้าง แค่คิดอย่างเป็นธรรมตามข้อ 1.เฉลี่ยทั้งช่วงการสมทบที่ผู้ประตันตนเสียประโยชน์
3. นอกจากนี้ สูตรนี้ยังคิดใหม่ตามค่าครองชีพ เช่น คุณเคยได้เงินเดือน 10,000 บาทปี 2548 แต่ในปี 2568 ได้เงิน 10,000 บาท มันมีค่าเท่ากับ 15,000 บาท เราก็คิด ว่าปี 2548 คุณได้เงิน 15,000 บาท จึงเอามาเฉลี่ย หรือเคยได้ 15,000 บาทปี 2548 ในปี 2568 อาจมีค่าประมาณ 20,000 บาท ก็นำค่านี้มาเฉลี่ยเหมือนว่า ได้เงิน 20,000 บาท ในปี 2548
4. แต่อย่างไรก็ตาม การใช้สูตรใหม่จะไม่มีทางได้บำนาญเกินสูตรเก่า เพียงแค่เป็นการปรับ (adjust) ให้ผู้ที่เสียประโยชน์
- คนส่วนมากโดยเฉพาะผู้ประกันตนในมาตรา 39 จะได้บำนาญเพิ่มประมาณ 1,000 บาท และจะทำให้เฉลี่ยแล้วคนได้บำนาญไม่น้อยกว่า 3,000 บาทต่อเดือน
6. ในระยะ 10 ปี ใช้เงินเพิ่มขึ้นประมาณ 60,000 ล้านบาท ถ้าเทียบกับที่เป็นกองทุนขนาดใหญ่ 2.6 ล้านล้านบาท แต่สามารถช่วยผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่จะได้รับผลประโยชน์โดยตรง หลังจากนั้นงบประมาณก็จะไม่เพิ่ม และไม่ส่งผลกระทบต่อกองทุนประกันสังคม
7. ส่วนผู้ประกันตน มาตรา 33 จะได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงสูตรใหม่ โดยส่วนใหญ่จะได้เพิ่มขึ้น แต่มีบางส่วนที่จะได้รับลดลง ตามข้อเสนอของอนุกรรมการฯ จะมีการชดเชยให้ไม่น้อยกว่าสูตรเดิมที่ได้รับ เป็นระยะเวลา 5 ปี ก่อนที่จะเข้าสู่การคำนวณตามปกติ ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบอร์ดฯ หากการคำนวญบำนาญสูตรใหม่ผ่าน
8. สูตรคำนวณบำนาญนี้ใช้ในหลายประเทศ และเป็นไปตามที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO) ที่หน่วยงานของ สปส.ทำวิจัยและให้คำปรึกษา
“สิ่งนี้จะกระทบกับผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเพิ่มขึ้นจากการใช้สูตรคำนวณแบบใหม่ราว 3 แสนคน ที่จะได้เพิ่มจากเฉลี่ยราว 1,000 บาท ขยับเป็น 2,000 บาทต่อเดือน เมื่อบอร์ดยังไม่ผ่านเรื่องจึงเป็นความเจ็บปวด ยกตัวอย่าง มีผู้ประกันตนมาตรา 39 แต่เงินบำนาญของเขาจะลดลงไปประมาณ 50 % หากยังส่งมาตรา 39 ต่อไป คนที่จะต้องส่งเงินสมทบ 432 บาท แต่จะได้รับเงินบำนาญเพียงเดือนละพันกว่าบาท” นายษัษฐรัมย์ กล่าว
นายษัษฐรัมย์ กล่าวอีกว่า สูตรเงินคำนวณบำนาญใหม่นี้ไม่ได้กระทบเงินสมทบของนายจ้าง แต่จะทำให้ผู้ประกันตนลืมตาอ้าปากได้ แต่ถูกเตะถ่วงออกไป 2-3 สัปดาห์ แต่ความล่าช้านี้คือเลือด น้ำตา ชีวิตของประชาชนคนธรรมดา เมื่อไม่ได้รับเงินบำนาญที่เพียงพอ บางคนต้องเลิกส่งมาตรา 39 ต้องเปลี่ยนโรงพยาบาลที่รักษามะเร็งอยู่ เพราะเหตุผลเรื่องเงินบำนาญ และตนจะไม่ยอมแลกสิ่งเหล่านี้กับกระบวนการตรวจสอบที่เราทำอยู่