วีแฟร์ นำทัพผู้ประกันตน บุก สปส. ยื่น 5 ข้อ จี้ปฏิรูปประกันสังคม-สิทธิประโยชน์ทุกมาตรา

วีแฟร์ นำทัพผู้ประกันตน บุก สปส. ยื่น 5 ข้อ จี้ปฏิรูปประกันสังคม-สิทธิประโยชน์ทุกมาตรา

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 มีนาคม ที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ชุดที่ 14 ครั้งที่ 5/2568 โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดประกันสังคม เป็นประธาน ทั้งนี้ มีวาระการประชุมเพื่อพิจารณาการปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีการคำนวณบำนาญชราภาพใหม่ของผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 และพิจารณาร่างประกาศคณะกรรมการประกันสังคม เรื่อง การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์การลงทุนนอกตลาด และการลงทุนในกิจการร่วมลงทุนที่ลงทุน ในอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด รวมถึงเรื่องอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน

โดยเมื่อเวลา 08.30 น. นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการเครือขายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม (เครือข่าย We Fair) นำกลุ่มมวลชนผู้ประกันตนกว่า 30 คน มารวมตัวกันที่หน้าอาคารอเนกประสงค์ สปส. เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องต่อบอร์ดประกันสังคมในการปฏิรูประบบการดำเนินงาน โดยมี นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน ในบอร์ดประกันสังคม เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว

ADVERTISMENT

นายนิติรัตน์กล่าวว่า สภาพปัญหาของระบบประกันสังคมเกิดจากโครงสร้างการบริหารกองทุนและสำนักงาน ประกันสังคมภายใต้การกำกับของภาคราชการ ขาดกลไกตรวจสอบและการมีส่วนร่วมของผู้ประกันตน ขาดประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการ การพัฒนาระบบบริการ ผู้ประกันตนเข้าไม่ถึงสิทธิประโยชน์ ในขณะที่สิทธิประโยชน์มีความไม่เป็นธรรม ดังปรากฏจากหลักเกณฑ์การคำนวณบำนาญชราภาพที่ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพในปัจจุบันและอนาคต

“ขณะเดียวกันแรงงานนอกระบบจำนวนมากขาดการคุ้มครอง เนื่องจากสิทธิประโยชน์ประกันสังคม มาตรา 40 ไม่จูงใจ รวมทั้งมีความแตกต่างของสิทธิประโยชน์มาตรา 33, 39, 40 ทำให้แรงงานนอกระบบไม่สมัครใจเข้าสู่ระบบ นอกจากนี้ สิทธิสุขภาพของระบบประกันสังคมด้อยกว่าสิทธิสุขภาพระบบอื่นของภาครัฐ ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบ แต่ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลที่จำกัดและไม่มีประสิทธิภาพ” นายนิติรัตน์กล่าว

ADVERTISMENT

นายนิติรัตน์กล่าวต่อว่า เครือข่าย We Fair จึงมีข้อเสนอการปฏิรูประบบประกันสังคมต่อคณะกรรมการประกันสังคมฝ่ายผู้ประกันตน ดังต่อไปนี้

1) ปฏิรูปเกณฑ์คำนวณบำนาญชราภาพให้เป็นธรรม โดยปรับปรุงสูตรคำนวณให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ รวมถึงพิจารณาการเพิ่มอัตราส่วนเงินสมทบของฝ่ายนายจ้างและภาครัฐ เพื่อให้เงิน บำนาญชราภาพมีความมั่นคงและยั่งยืน

2) ปฏิรูประบบประกันสังคมพื้นฐานถ้วนหน้า เพื่อขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุม ประชากรในวัยทำงาน อายุ 18-60 ปีทุกคน โดยรัฐเป็นผู้สมทบให้กับสำนักง โดยรัฐเป็นผู้สมทบให้กับสำนักงานประกันสังคม ซึ่งเป็นมาตรการสนับสนุนให้แรงงานทุกกลุ่มเข้าสู่ระบบประกันสังคม ไม่ว่าจะเป็นแรงงานอิสระ แรงงาน แพลตฟอร์มแรงงานในเศรษฐกิจภาคนอกระบบ

3) ปฏิรูปโครงสร้างกลไกการบริหารให้เป็นอิสระ เพื่อการบริหารจัดการที่มีธรรมาภิบาล ตรวจสอบได้และมีประสิทธิภาพ สามารถตั้งผู้เชี่ยวชาญเพื่อการบริหารจัดการ การพัฒนาระบบบริการ การปรับปรุงการบริหารเงินลงทุนให้โปร่งใสมีประสิทธิภาพ การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานให้ผู้ประกันตนและสาธารณชนรับรู้ ในขณะที่การบริหารกองทุนโดยภาครัฐในปัจจุบันมีโครงสร้างการ บริหารที่ล้าสมัย ขาดกลไกตรวจสอบและการมีส่วนร่วมของผู้ประกันตน ทั้งนี้ บทบาทของ คณะกรรมการประกันสังคมที่มาจากการเลือกตั้งที่มีตัวแทนจากผู้ประกันตน นายจ้าง ทำให้มีผู้แทนแต่ละฝ่ายคอยดุลอำนาจระหว่างกัน แทนที่ชี้นำการบริหารโดยภาครัฐฝ่ายเดียว

4) ปฏิรูปสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนทุกมาตรา ทั้ง 7 กรณี ได้แก่ กรณีคลอดบุตร: เงินค่า คลอดและสิทธิวันลา กรณีสงเคราะห์บุตร: เงินอุดหนุนและขยายช่วงอายุ กรณีเจ็บป่วย: สิทธิการ รักษาและค่าทันตกรรม กรณีทุพพลภาพ (พิการ): เงินทดแทนและการบริการกายอุปกรณ์ กรณี ว่างงาน: เพิ่มเงินชดเชยและขยายช่วงเวลารับเงิน กรณีชราภาพ (เกษียณอายุ): เพิ่มเงินบำนาญและ ปรับโครงสร้างเงินสมทบ กรณีเสียชีวิต: ค่าทำศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัว สิทธิประโยชน์เหล่านี้ ควรพิจารณาปรับเพิ่มให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคำนึงถึงค่าครองชีพ การเปลี่ยนแปลง ของตลาดแรงงาน และความมั่นคงทางสังคมของผู้ประกันตน ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนควรมี มาตรฐานความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกัน

5) ปฏิรูประบบสิทธิสุขภาพประกันสังคม ให้มีมาตรฐานทัดเทียมเทียบเท่ากับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ทั้งนี้ การบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานควรดำเนินการโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบบเดียว เพื่อสร้างความเท่าเทียมทางสังคมและสร้างความ เป็นสมานฉันท์ของคนทำงาน เนื่องจากสิทธิการรักษาพยาบาลไม่ควรให้คนกลุ่มหนึ่งได้รับจากระบบ ภาษี ในขณะที่คนอีกกลุ่มใช้การร่วมจ่ายของนายจ้างและลูกจ้าง ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนเลือกใช้สิทธิ ระบบ สปสช. ควรสามารถนำเงินสมทบมาใช้กับสิทธิประโยชน์บำนาญชราภาพได้

“เครือข่าย We Fair เห็นว่าการปฏิรูประบบประกันสังคมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงควรเร่งรัดดำเนินการการปฏิรูปเกณฑ์คำนวณบำนาญชราภาพ การปฏิรูประบบประกันสังคมพื้นฐานถ้วนหน้า ขยายความคุ้มครองแรงงานทุกกลุ่ม การปฏิรูปกลไกบริหารที่เป็นอิสระและโปร่งใส การปฏิรูปสิทธิประโยชน์ประกันสังคมและการปฏิรูประบบสิทธิสุขภาพประกันสังคม เพื่อให้ระบบประกันสังคมเป็นเครื่องมือในการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่คนทำงานทุกคน” นายนิติรัตน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image