ไอซ์ ตอบกลับ สุชาติ หลังโวยเล่นการเมืองสกปรก ลั่น ไม่ทำผิดให้ชี้แจง ไม่ต้องร้อนรน ปชช.จะตัดสินเอง
จากกรณี น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) และ นายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรค ปชน. เปิดประเด็นสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ใช้เงินกองทุนประกันสังคมซื้ออาคารสกายไนน์ เซ็นเตอร์ (SKYY9 Centre) ถนนพระราม 9 มูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท ทั้งๆ ที่ราคาตึกที่มูลค่า 3 พันล้านบาท โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ อดีตเลขาธิการ สปส. ปัจจุบันเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน และนายสุชาติ ชมกลิ่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในช่วงนั้น และมีการส่งคนของตัวเองไปอยู่ในอนุกรรมการการลงทุนด้วย
อ่านข่าว ประกันสังคม แจง ลงทุนตึก ‘SKYY9’ ผ่านกองทุนทรัสต์ 6.9 พันล้าน ยันกำไรดี โปร่งใส
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ถึง..คุณไอซ์ รักชนก และทีมงาน อย่าบิดเบือนโดยการเมืองแบบสกปรกเป็นคนของประชาชน วิพากษ์วิจารณ์ ตามสมควรได้ แต่ถ้าไม่ถูกต้องถ้าเกินสมควร หรือทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด หรืออาจเข้าใจผิดหรือกล่าวอ้าง จนทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง มันก็ไม่สมควรมันง่ายที่คุณพูดออกมา ว่าคนนั้นคนนี้ คุณคิดว่า คนอื่นๆ โดยไม่รับผิดชอบแล้วเมื่อสังคมเขาเข้าใจไป ตีความไป เหมือนสังคมทุกวันนี้มีใครครับที่ออกมาประกาศดังๆ ว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณพูด อย่าสนุกกับการวิพากษ์ คนอื่น เมื่อไหร่ที่มันยังไม่ใช่เรื่องของคุณ คุณจะคิดว่า ทำไมจะทำไม่ได้ หรืออะไรต่างๆนานาสิ่งที่ผมสร้างมา ทั้งการงาน ครอบครัว ผมใช้เวลามาทั้งชีวิตผมไม่เคยเห็นด้วย และไปกระทำกับใคร อย่ารอให้ปัญหาแบบนี้มาถึงตัวพวกคุณเลยครับ ทุกคนทำงาน มีสิ่งที่ต้องแลกมาทั้งนั้น เวลา สุขภาพ ผมตระหนักดี ช่วงเวลาที่ผมทำหน้าที่ สิ่งที่ผมภูมิใจ คือแม้จะเป็นวิกฤตที่ไม่มีใครแม้แต่ตัวผม ที่ไม่อยากให้เกิด คือ Covid-19 แต่ผมได้เป็นส่วนหนึ่งในการวางนโยบายช่วย พี่น้องแรงงาน ตรวจคัดกรอง ประสานขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนำเข้า ครม. โดย ท่านนายกรัฐมนตรี เห็นชอบ และถูกใจ ผู้นำแรงงาน รวมถึง พี่น้องผู้ใช้แรงงาน จนทำให้เกิด Factory Sandbox เกิดการยับยั้งการแพร่กระจายในโรงงาน ส่งออกเติบโตในรอบ 30 ปี เข้าใจครับ #คนไม่รัก #ยังไงก็ไม่รัก แต่ขอแค่ให้ท่านมองไปหลายๆ ทาง อย่ามองอะไรแค่ที่เขาหยิบใส่ให้เราทราบ ความจริงก็คือความจริง อย่าบิดเบือน โดยการเมืองแบบ “สกปรก” พอตัวคุณโดนบ้าง ก็อ้าง กระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรมทั้งที่ “ความจริงก็คือความจริง”
อ่านข่าว สุชาติ โต้ ไอซ์ รักชนก ปมซื้อตึก 7 พันล้าน ยันไม่เคยยุ่งเกี่ยว อย่าทำให้คนอื่นเข้าใจผิด
ล่าสุด วันเดียวกัน น.ส.รักชนก ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าใครที่เล่นการเมืองสกปรก ตนเป็น ส.ส.สมัยแรก ที่เรียกร้องทุกสิ่งทุกอย่างให้มีการเปิดเผย โปร่งใสมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลงบประมาณ หรือแม้กระทั่งสำนักงานประกันสังคม ประชาชนคงจะตัดสินได้ว่าตนทำงานการเมืองแบบไหน มาหากินกองทุนประกันสังคมและหาประโยชน์จากผู้ประกันตน
“กับท่านหนึ่งที่เป็น รมว.มา 1 สมัยเต็มๆ แต่ที่ผ่านมา บริหารจัดการกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะ สปส. ให้อยู่ในเงามืด และที่ต้องมาขุดคุ้ยทุกวันนี้ ไม่ได้เป็นเพราะอดีต รมว.แรงงานคนเก่าหรือไม่ ที่เอาผ้าดำคลุมเอาไว้และเราต้องมาถลกออกวันนี้“ น.ส.รักชนกกล่าว
ต่อมา น.ส.รักชนก ได้แชร์โพสต์ของ นายสุชาติ ผ่านเพจ “รักชนก ศรีนอก – Rukchanok Srinork” พร้อมกับ
1.ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดก็ชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง ไม่ต้องร้อนรน แล้วประชาชนจะเป็นคนตัดสินเองจากข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับ
2.นักการเมืองอย่าง คุณสุชาติ ชมกลิ่น ยังกล้าไปชี้หน้ากล่าวหาคนอื่นว่า ‘การเมืองสกปรก’ ด้วยหรือคะ พูดอะไรไม่เกรงใจประวัติการทำงานของตัวเองเลย
ด้านนายสหัสวัต กล่าวว่า มีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาฯหลายคนออกมาวิเคราะห์และประเมินมูลค่าตึก Skky 9 ไปแล้วว่าควรจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ตนคิดว่าสังคมต้องเป็นคนตั้งคำถาม เพราะสิ่งที่พวกตนยืนยันคือ ซื้อมา 7 พันล้านบาทและมันน่าสงสัย แต่ผู้ที่วิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่คือประชาชน
“จากที่อ้างเรื่องการทำ Factory Sandbox ในยุคโควิด 19 ผมในฐานะคนที่ทำเรื่องแรงงานและเป็น ส.ส. ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม Factory Sandbox เป็นกระบวนการที่ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องโควิด-19 เลย รวมถึงการนำคนไปอยู่ในโรงงานและทำงานตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ยังป่วยเป็นโควิด และที่บอกว่า ถูกใจ ผู้นำแรงงาน รวมถึง พี่น้องผู้ใช้แรงงาน อยากรบกวนทำโพลให้หน่อยว่า ถูกใจการทำงานของอดีต รมว.แรงงานท่านนี้หรือไม่“ นายสหัสวัตกล่าว
นายสหัสวัตกล่าวอีกว่า หน้าที่ในฐานะ ส.ส. คือการตั้งคำถามของกระบวนการดำเนินงานที่ผ่านมาของทุกคน และพวกตนก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เมื่อเจอสิ่งผิดปกติก็ออกมาตั้งคำถาม สิ่งที่ตั้งใจทำมากๆ คือการเปิดเผยข้อมูลประกันสังคมให้ผู้ประกันตนได้ตั้งข้อสงสัยถึงความผิดปกติ และพวกตนไม่ใช้อคติทางการเมืองใดๆ เลย เพราะสิ่งเดียวที่ตนคิดว่าเป็นศัตรูคือความไม่ชอบมาพากลและคนที่โกงกินเงินผู้ประกันตน