พิพัฒน์ ดันค่าแรง 400 สกัดจีนแย่งงานคนไทย-ยกระดับกองทุนประกันสังคม

พิพัฒน์ ยันเดินหน้านโยบายแรงงานด้วยหลักสมดุล โปร่งใส ยั่งยืน ดันค่าแรง 400 สกัดจีนแย่งงานคนไทย-ยกระดับกองทุนประกันสังคม

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยระหว่างร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ โดยตอบทุกข้อกังวลของฝ่ายค้าน ว่า กระทรวงแรงงานในยุคนี้ ต้องโปร่งใส สมดุล และทำให้ประชาชนมั่นใจว่าทำเพื่อประโยชน์ของแรงงานไทยทุกคน

นายพิพัฒน์ กล่าวยืนยันว่า การปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท/วัน ต้องใช้ข้อมูลรอบด้านและพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีผลต่อทั้งแรงงานและนายจ้าง โดยเฉพาะภาคเอสเอ็มอีที่เป็นหัวใจของเศรษฐกิจไทย การขึ้นค่าแรงไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือการสร้างสมดุลระหว่างความอยู่ได้ของแรงงาน และความอยู่รอดของผู้ประกอบการ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าอย่างยั่งยืน

ขณะนี้ได้มีการปรับขึ้นใน 5 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และเกาะสมุย และเตรียมขยายทั่วประเทศเป็นของขวัญวันแรงงาน โดยมีแผนช่วยเหลือนายจ้างควบคู่ผ่านมาตรการภาษีร่วมกับกระทรวงการคลัง

ADVERTISMENT

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า รับทราบข้อกังวลกรณีแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาทำงานในไทยอย่างไม่ถูกต้อง โดยข้อมูลระบุว่ามีแรงงานจีนในระบบ 50,069 ราย และในพื้นที่ EEC มากกว่า 32,000 ราย ที่ลงทะเบียนมีใบอนุญาตทำงานกับกรมการจัดหางาน

ADVERTISMENT

โดยกระทรวงได้สั่งเดินหน้ามาตรการเข้ม ทั้งการตรวจจับแรงงานผิดกฎหมาย (เจอ จับ ปรับ ผลักดัน) และตั้งชุดเฉพาะกิจ “ไตรเทพพิทักษ์” โดยดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนไปแล้วจำนวนมาก

โดยกระทรวงแรงงานแนวทางควบคุม เบื้องต้นดังนี้ คุมเข้ม , จัดการนอมินี, ตรวจลึกในพื้นที่ EEC, ทบทวนโควตาต่างด้าวในบางอาชีพ, ส่งเสริมการจ้างงานแรงงานไทยแทน

“แรงงานจีนไม่ใช่แค่เข้ามาทำงานผิดกฎหมาย แต่กำลังค่อย ๆ แย่งพื้นที่เศรษฐกิจของคนไทย ตั้งแต่ร้านอาหารยันวัสดุก่อสร้าง ต้องเร่งแก้ ก่อนเสียหายไปกว่านี้” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ได้เร่งยกระดับการบริหารกองทุนประกันสังคม โดยตั้งเป้าให้กองทุนเติบโตยั่งยืน ไม่ล้มละลายในอนาคต โดยมีนักคณิตศาสตร์ประกันภัยเข้าร่วมวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ ในปี 2567 กองทุนทำผลตอบแทนได้สูงถึง 5.34% เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่อยู่ที่ 3.11% และหากดำเนินการตามแผน จะสามารถยืดอายุความมั่นคงของกองทุนได้อีก และเราขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจว่า เงินทุกบาทจะถูกนำไปลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และดอกผลจะถูกนำกลับมาเพิ่มสิทธิประโยชน์ เช่น ค่ารักษาพยาบาลหรือสิทธิอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ภายในเดือนตุลาคมนี้ จะจัดเวทีระดมสมองใหญ่เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ระยะยาว อีกครั้ง และคาดว่าในอีก 12 ปีข้างหน้า กองทุนประกันสังคมจะมีสินทรัพย์สูงถึง 6 ล้านล้านบาท

“แรงงานไทยต้องมั่นใจว่า กระทรวงแรงงานวันนี้ ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง” นายพิพัฒน์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image