‘พิพัฒน์’ หารือทันตแพทยสภา เดินหน้าเพิ่มสิทธิรักษาฟันให้ ‘ผู้ประกันตน’

‘พิพัฒน์’ หารือทันตแพทยสภา เดินหน้าเพิ่มสิทธิรักษาฟันให้ ‘ผู้ประกันตน’

วันนี้ (27 มีนาคม 2568) ทพ.ไชยรัตน์ เฉลิมรัตน์โรจน์ นายกทันตแพทยสภา และคณะ เข้าพบ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาสิทธิประโยชน์ทางทันตกรรมของผู้ประกันตน โดยมี นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน น.ส.บุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน และ ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมที่กระทรวงแรงงาน

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะพัฒนาสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านทันตกรรม ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง โดยได้เน้นย้ำว่า แรงงานไทยควรมีสิทธิการรักษาทางทันตกรรมที่เพียงพอ ครอบคลุม และเข้าถึงได้จริง พร้อมเปิดรับข้อเสนอจากทันตแพทยสภา เพื่อพัฒนาแนวทางร่วมกันระหว่างสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และหน่วยงานสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง

ADVERTISMENT

“โดยมีประเด็นสำคัญจากการหารือ ว่า ปัจจุบันผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิทันตกรรม เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ได้ไม่จำกัดครั้ง วงเงิน 900 บาทต่อปี ซึ่งมีแนวทางพิจารณาขยายสิทธิเป็น 1,200 บาทต่อปี และใช้บริการในโรงพยาบาลของรัฐได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง พร้อมวางแผนขยายคลินิกและรถทันตกรรมเคลื่อนที่ รวมกว่า 15,989 แห่ง ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าให้สิทธิประโยชน์เทียบเท่ากับสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพของกองทุน” นายพิพัฒน์ กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อไปว่า วันนี้เราหารือร่วมกับทันตแพทยสภา เพื่อขับเคลื่อนแนวทางให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงบริการทันตกรรมที่จำเป็นได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องรอนาน หรือเสียค่าใช้จ่ายสูงเหมือนในอดีต ที่สำคัญ ยังมุ่งให้เกิดความ เท่าเทียมในการรักษา ไม่ว่าจะอยู่ในสิทธิประกันสังคม สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

“หากเราสามารถขยายสิทธิประโยชน์ได้ตามแนวทางที่กำลังหารือ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพช่องปากของแรงงานไทยได้อย่างมาก และยังช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับแรงงานในระบบประกันสังคมอย่างยั่งยืน นี่คือหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของกระทรวงแรงงาน ที่อยากให้ประชาชนทุกคนได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม” นายพิพัฒน์ กล่าว