ชัชชาติ แถลงคืบหน้ากู้ภัยตึกถล่ม เช้านี้ พบสัญญาณชีพ เร่งเจาะค้นหา แจงปม ตัวเลขผู้เสียชีวิตลด เหตุปรับ ‘นิยาม’ ใหม่
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรุงเทพมหานคร ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร กรุงเทพฯ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงรายงานความคืบหน้า ถึงการกู้ภัยเหตุอาคารถล่ม ในเขตจตุจักร ว่ากระบวนการยังคงเป็น ‘การค้นหาผู้รอดชีวิต’ ล่วงเข้ามาสู่วันที่ 2 หรือ 48 ชั่วโมง ในช่วงเช้าว้นนี้ เจ้าหน้าที่พบสัญญาณชีพบริเวณโซน A เจ้าหน้าที่จะพยายามเจาะเข้าค้นหา
“กระบวนการเป็นไปตามขั้นตอน เรามีผู้ที่มีความสามารถอยู่ในพื้นที่ เมื่อเช้านี้มีการพบศพเพิ่มเติม ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิต คงต้องรอการยืนยัน แต่ขออย่ากังวลในส่วนนี้มากนัก เพราะขึ้นอยู่กับการนิยาม คือ เดิมนับคนที่เสียชีวิตอยู่บนตึกด้วย แต่เราปรับการนิยามใหม่ ว่านับเฉพาะคนที่สามารถนำร่างออกมาจากพื้นที่ได้ ดังนั้น ตัวเลขเมื่อเช้าอาจลดลง ตอนนี้มีราว 7-10 คนที่สามารถนำร่างออกมาได้แล้ว
เพราะฉะนั้น สถานการณ์เดินหน้าเต็มที่ เราได้รับความช่วยเหลือเข้ามาจากหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน อิสราเอล ซึ่งจะส่งเครื่องมือมาเพิ่มด้วย มีการประสานหน้างานแบ่งพื้นที่ให้แต่ละทีมช่วยค้นหา
สรุปคือ ตอนนี้เดินหน้าต่อเต็มที่สำหรับการกู้ภัย การค้นหาผู้รอดชีวิต เรายังไม่หมดหวัง ยืนยันว่าต้องทำเต็มที่ เชื่อว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิตอยู่ด้านใน” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับอุปสรรคที่อาจเจอในวันนี้คือ จากการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา มีโอกาสที่ฝนจะตก 60% กทม. ได้พูดคุยกับผู้อำนวยการเหตุซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพิ้นที่หน้างานแล้ว ทราบว่าไม่มีผลกระทบต่อการกู้ภัย เนื่องจากอาคารยึดโยงกันด้วยเหล็ก แต่ที่น่ากังวล คือ การระบายน้ำด้านหน้าอาคาร เพราะมีฝุ่นจากปูนซีเมนต์ที่คลุ้งขึ้นมาแล้วตกลงไปในท่อระบายน้ำ เพราะฉะนั้น ต้องไปเคลัยร์ตรงนี้เพื่อให้น้ำสามารถไหลได้ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ในการกู้ภัย ครบถ้วน ไม่มีปัญหา สถานการณ์เดินหน้าต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัย ในพื้นที่ก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ที่ได้ถล่มลงมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 29 มี.ค.เจ้าหน้าที่กู้ภัย 4 คนขึ้นรถเครนยกกระเช้ากู้ร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่ติดค้างอยู่บนยอดของซากอาคาร โดยมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานร่วมเข้าตรวจสอบ ก่อนส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ
สำหรับข้อมูลยอดผู้เสียชีวิต มีจำนวน 10 ราย ชาย 5 หญิง 2 โดยนำออกมาได้แล้ว 7 ราย ยังไม่พิสูจน์อัตลักษณ์-นำออกไม่ได้ 3 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บ 8 ราย และผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา รวม 77 ราย