ชัชชาติ ชี้ทุกอย่างยังมีหวัง ยันไม่หยุดค้นหา ผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ใหม่ถล่ม

ชัชชาติ ยัน แม้ผ่าน 72 ชั่วโมงก็ไม่หยุดการค้นหา ผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ใหม่ถล่ม

เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 31 มีนาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่มจากเหตุการณ์การเเผ่นเดินไหว

โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า ภาพรวมภายหลังจากแผ่นดินไหวในกรุงเทพมหานคร ตอนนี้ ทั้งการจราจร รถไฟฟ้า และทางด่วนเปิด ทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ยกเว้นจุดที่ตึกสตง. ถล่ม ซึ่งการเข้าไปตรวจดูอาคารต่างๆในพื้นที่กทม.ก็ได้มีการคัดกรองอาคารที่เสียหายมากและเสียหายน้อย ซึ่งปัจจุบันมีอาคารที่ให้ยุติการใช้งานแค่สองอาคารเท่านั้น

ในส่วนของเรื่องการเยียวยาผู้เสียหาย อยู่ในขั้นตอนการประสานงานกับ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อดูว่าสามารถช่วยเหลือตรงจุดไหนได้บ้าง ทั้งนี้ ยังมีความร่วมมือกับภาคเอกชนที่ช่วยเหลือ โดยเฉพาะญาติของผู้ติดค้างที่มีการตั้งศูนย์บริการในพื้นที่ มีล่ามภาษาเมียนมาร์และภาษาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ส่วนที่ต้องโฟกัสตอนนี้คือการกู้ภัยและกู้ชีพผู้เสียชีวิต ทั้งนี้บริเวณอาคาร สตง. ยืนยันว่า เมื่อครบ 72 ชั่วโมงแล้ว เราจะไม่ยกเลิกการค้นหาแน่นอน และเดินหน้าต่อ เพราะเป็นคำแนะนำจากนานาชาติ ทุกอย่างยังมีความหวัง ไม่ได้หมดหวัง พร้อมกับต้องดูแลญาติของผู้ที่ติดอยู่ภายใน

ทั้งนี้ ยังมีทีมกู้ภัยจากนานาชาติ ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ตรงโดยเฉพาะเหตุการณ์ถล่มที่ตุรกี ที่จะต้องเข้ามาเป็นบทเรียนนี้ และมาเป็นตัวกำหนด ในการวางแผนปฏิบัติภารกิจด้วย ส่วนในเรื่องของความยาก คืออยู่ที่อาคาร ที่ถล่มมีหลายชั้น และมีลักษณะท้อนซับกันอยู่ ซึ่งเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) พบสัญญาณชีพบ้างแล้ว โดยเฉพาะโซน A และโซน C ซึ่งลักษณะสัญญานชีพมีทั้งอ่อนแอ และมีพลัง ซึ่งเมื่อวานที่พบเป็นสัญญาน weak จะอยู่ลึกเข้าไปในระยะ 3-6 เมตร แต่พอเจาะลงไปจุดที่พบสัญญาณชีพก็มีสิ่งกีดขวางอยู่ ซึ่งจุดดังกล่าวไม่แน่ใจว่าเป็นร่างของผู้เสียชีวิตหรือผู้ที่รอดชีวิต ส่วนจุดนี้ไม่ได้ขาดอุปกรณ์อะไรเพราะมีอุปกรณ์หนักเข้ามาหมดแล้ว โดยเฉพาะเครน 600 ตัน เข้าประจำที่แล้ว เรามีทุกอย่างพร้อมในพื้นที่แล้ว

ADVERTISMENT

นายชัชชาติ ยังกล่าวอีกว่า การยกชิ้นส่วนไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกส่วนมีเหล็กเชื่อมอยู่ และการยกออกเลย อาจทำให้ติดชิ้นส่วนเหล็กและดึงชิ้นส่วนอื่นๆร่วงลงมา และอาจทำให้เกิดอันตรายเพิ่มขึ้น จึงต้องค่อยเป็นค่อยไปในการที่จะยกชิ้นส่วนออก และตอนนี้พยายามหาจุดเพื่อเจาะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ข้างในออกมาก่อน ซึ่งการทำงานไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อคืนทีมงานสามารถเข้าไปในนั้นได้ 8 คน นานสุด 20 นาทีเท่านั้น จึงต้องมีการสลับเวรกัน

ADVERTISMENT

ส่วนกรณีที่ฝนตกลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยปริมาณฝนที่ตกลงมาในช่วงเช้าถือเป็นผลที่ดีกับผู้ที่ติดอยู่ภายในเพราะทำให้อุณหภูมิของอากาศไม่ได้สูงมาก แต่มีความกังวลในประเด็นเดียว ในการพัดพาเศษปูนเศษหินที่กระจายอยู่จะจับตัวเป็นก้อนแข็ง แต่เชื่อว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคมากจนเกินไป เพราะ โดยรอบพื้นที่ได้มีการเตรียมความพร้อมในการลอกท่อเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะเกิดการท่วมขังให้เกิดการระบายได้อย่างคล่องตัว

นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า จากการวิเคราะห์พื้นที่อาคารแห่งนี้จะมีปล่องลิฟค์และบันไดหนีไฟ โดยมีปล่องลิฟต์เป็นแกนและจะมีพื้นกับเสา ซึ่งขนาดเกิดเหตุการณ์เชื่อว่าคนงานจะวิ่งลงทางบันไดหนีไฟแล้วอาคารก็ถล่มลงมา โดยจะทำให้ คนจำนวนมากจะอยู่ในปล่องบันไดหนีไฟ โดยปล่องนี้ ในแง่หนึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะปล่องจะมีลักษณะถูกห่อหุ้มอยู่ หากเทียบกับพื้น ที่ซ้อนทับกันอยู่ โอกาสที่คนจะอยู่ จุดที่เป็นพื้น ที่ถล่มลงมาและซ้อนทับกัน น้อยกว่า ดังนั้นใน วันนี้คงจะต้องเน้นการค้นหาบริเวณปล่อง และหาทางเจาะเข้าไป เชื่อว่ายังมีความหวังและทำงานอย่างเต็มที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ทุกอย่างเราทำด้วยหลักวิศวกรรม

ส่วนจะกังวลหรือไม่เศษว่า ซากอาคารดังกล่าวจะเกิดการสไลด์หรือเกิดทรุดตัว นายชัชชาติ ระบุว่า ต้องมีการตรวจสอบตลอดเวลา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยหากขึ้นไปที่ด้านบนต้องมีห่วงนิรภัย เพราะโอกาสสไลด์หรือทรุดมีได้ตลอดเวลา แต่เจ้าหน้าที่จะมีอุปกรณ์ที่เป็นเลเซอร์ ในการตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวอาคาร ซึ่งถือเป็นระเบียบปฏิบัติตามหลักสากลในการป้องกัน ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่

นายชัชชาติ ย้ำว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ขอให้วางใจ เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลก มาร่วมปฏิบัติ ขณะที่การตรวจสอบความผิดพลาด ของอาคารถล่มในครั้งนี้ จะมีกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้ทำการตรวจสอบ และกทม. จะให้การสนับสนุน และหน่วยงานไหนหากจะเข้ามาเก็บตัวอย่างวัสดุก็จะต้อง แจ้งลงทะเบียนให้เรียบร้อย

ส่วนกรณีที่มีชาวจีนเข้ามาขนเอกสารออกไป ทางกรุงเทพมหานครได้ทำการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว พร้อมย้ำว่าพื้นที่ดังกล่าว จำกัดเป็นพื้นที่สาธารณภัย ห้ามคนเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้น การเข้าไปเอาเอกสารถือว่ามีความผิด ส่วนเศษซากปูนทั้งหมด ประมาณ 20,000-50,000 ลูกบาศก์เมตร จะมีการขนออกไปไว้ในพื้นที่โล่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่จะเป็นลักษณะของการ ค่อยๆเคลียร์ออก

นายชัชชาจิติ ยังพูดถึงกรณีที่มีกระแสดราม่าในการทำงานของเจ้าหน้าที่ล่าช้าเกินไปหรือไม่ ว่า ตนในฐานะผู้อำนวยการเหตุการณ์ ยืนยันว่า การปฏิบัติการทำตามหลักวิชาการทุกอย่าง อาจไม่จงใจ แต่ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ และจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ของผู้ที่ติดอยู่และผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้พร้อมน้อมรับคำติชม และเชื่อว่า คงจะมีคนจำนวนมากที่ไม่สบายใจ แต่เราทำงานด้วยสติ เหตุผล และหลักวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้หักส่วนไหนที่จะปรับปรุงได้ก็จะนำไปปรับปรุง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image