ชัชชาติ ขอโทษ ‘ไปไม่ถึงผู้ที่คาดว่าติดอยู่’ ทุกโพรง ทุกซอก สำรวจหมดแล้ว โกยเศษปูนด้วยมือ 20 ตัน ชี้ สถิติอันดับต้นของโลก
เมื่อวันที่ 4 เมษายน เวลา 09.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แถลงความคืบหน้าในตอนหนึ่งว่า วันนี้จะนำเครื่องมือหนักเข้าไปมากขึ้น ควบคู่การมอนิเตอร์สัญญาณชีพ หากพบสัญญาณชีพ ทีมกู้ชีพจะเข้าไป ซึ่งจะทำให้เปิดพื้นที่ได้มากขึ้น ที่ผ่านมา ทุกจุดที่เราสามารถเข้าได้ ทุกโพรง ทุกซอก เราเข้าไปสำรวจหมดแล้ว แต่ไม่สามารถหาผู้รอดชีวิตในโพรง ในซอกเหล่านี้ได้ ดังนั้น วิธีเดียวคือใช้เครื่องมือหนักเปิดให้มากขึ้น พอมีจังหวะก็เข้าอีกครั้งหนึ่ง คงเป็นกระบวนการนี้
“ซากทั้งหมดจากการประมาณการ มีประมาณ 15,000 ลบ.ม. คิดเป็นประมาณ 4 หมื่นกว่าตัน ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะรื้อย้ายโดยใช้เวลาประมาณ 30-60 วัน ถ้าเป็นตึกธรรมดา คงไม่ได้รื้อย้ายนานขนาดนี้ แค่เนื่องจากเราต้องดูเรื่อง Rescue ด้วย ต้องมีคนคอยดูว่ามีคนรอด หรือเจอร่างผู้เสียชีวิต ก็ต้องใช้เวลา
ทุกอย่างเข้าระบบ และดำเนินการ สรุปคือ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ตามมาตรฐาน
ต้องขอโทษที่ไปไม่ถึงผู้ที่เราคาดว่าติดอยู่ แต่เมื่อวานนี้สัญญาณชีพก็ค่อยๆหายไป มาถึงช่วงเย็นๆ ก็ไม่ได้ยินเสียงแล้ว” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติ กล่าวว่า ทุกคนเสียใจ แต่เชื่อว่าทุกคนทำดีที่สุดแล้ว ทีมผู้เชี่ยวชาญระบุว่าวานนี้เราขนเศษปูนออกด้วยมือกว่า 20 ตัน น่าจะเป็นสถิติอันดับต้นๆ ของโลก
“สถานการณ์ตอนนี้ คือ การใช้เครื่องมือหนักมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมดหวัง ยังมี 2 ส่วนคือ Rescue ช่วยชีวิต และค้นหาผู้เสียชีวิต ตอนนี้เราคงให้ความสำคัญกับการ Recovery หรือการรื้อถอนมากขึ้น แต่ก็จะมีทีม Rescue แสตนบายตลอด มีคนคอยมอนิเตอร์สัญญาณชีพ ถ้าเจอ ทีมกู้ชีพก็จะเข้าไป จะทำให้เราเปิดพื้นที่ได้มากขึ้นต้องขอบคุณทีมงานทั้งไทยและต่างชาติที่ยืนหยัดคู่กับเรา คนหนึ่งตนเห็นเลยว่าอยู่ตลอด 48 ชม. เคียงข้างเรา นี่ก็เป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณ
” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติ กล่าวว่า ทีมงานจะแบ่งออกเป็นทีมที่อยู่หน้างาน คอยดูว่าตอนรื้อถอนมีคนที่รอดชีวิตหรือเสียชีวิตหรือไม่ ต้องคอยมอนิเตอร์ สิ่งที่นำออกมา ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้ง ว่ามีหลักฐานอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ในขณะเดียวกันทีม Rescue ก็ยังอยู่ สำหรับด้านนอกคงดูเรื่องความเสียหาย และผู้เสียหาย ซึ่งก็มีแต่ละหน่วยงานเดินหน้าไป
” โหมดของคนหน้างาน ก็คงต้องเกี่ยวข้องกับการรื้อถอน และเก็บพิสูจน์หลักฐานมากขึ้น สำหรับทีมกู้ภัยจากต่างประเทศ เป็นทีมเฮฟวี่ อันดับต้นของโลก จะอยู่กับเราตามที่เราขอ วันนี้จะสรุปอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะอยู่นานแค่ไหน เราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งก็ต้องขอบคุณ” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อมีผู้ถามถึงสัญญาณจาก K9 ก่อนหน้านี้ นายชัชชาติ ตอบว่า อาจเป็นผู้ที่เพิ่งเสียชีวิตก็ได้ เราก็พยายามทุกวิถีทาง แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ขึดต่อจนถึงเที่ยงคืนที่ผ่านมา โพรงที่เข้าไป แคบลงเรื่อยๆ มีทั้งเหล็กเส้น และวัสดุอื่นๆ เราคงเปิดจุดอื่นไม่ได้แล้ว ทีมงานนานาชาติบอกเลยว่า นี่เป็นกรณีที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน เพราะเป็นตึกสูงที่ถล่มในทีเดียว คงไม่มีตำราเล่มไหนบอกว่าต้องทำวิธีไหน ใช้เวลากี่ชั่วโมง ทุกอย่างต้องปรับหน้างาน
“วันนี้น่าจะมีการนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อวานมี 14 และน่าจะมีเพิ่มอีก 2 รวมเป็น 16 ถ้าเป็นไปได้เราจะพยายามนำออกมาเพื่อพาเขากลับบ้านให้เรียบร้อย นี่คือจุดที่ต้องเร่งทำ ขณะเดียวกันก็ต้องดูเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะขณะรื้ออาจมีการสไลด์ได้
ร่างที่เจอ ถ้าไม่ยากลำบาก นำออกทันที ที่ยังนำออกไม่ได้ เพราะถูกทับอยู่” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังใจคือสิ่งสำคัญของทุกคน เชื่อว่าทุกคนทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้ทิ้ง ไม่ได้ยกเลิก ทุกคนเดินเต็มที่แล้ว
นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า วานนี้ นายโอตากะ มาซาโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ลงพื้นที่ด้วย โดยทางญี่ปุ่นจะช่วยในเรื่องของเทคโนโลยี เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ การแจ้งเหตุเมื่อเกิดแผ่นดินไหว การเข้าไปตรวจอาคาร เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่แผ่นดินไหวหนักกว่าไทยเยอะ ตนได้เรียนถามท่านทูตถึง คนญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ ได้คำตอบว่า เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหา ดังนั้น นี่จึงเป็นส่วนสำคัญที่แสดงถึงความมั่นใจของต่างชาติที่มีให้ประเทศไทย
สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้เป็นไปตามพัฒนาการ ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง เมื่อไม่พบผู้รอดชีวิต ก็ต้องปรับมาใช้เครื่องมือหนัก
