นักวิจัย ม.เกษตร.-กรมอุทยานฯ ร่วม ค้นพบ ปอศรีสมนึก พรรณไม้สกุลและชนิดใหม่ของโลก

นักวิจัย ม.เกษตร.-กรมอุทยานฯ ร่วมค้นพบปอศรีสมนึกพรรณไม้สกุลและชนิดใหม่ของโลก จากเทือกเขาตะนาวศรี ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ ผศ.สมนึก ผ่องอำไพปรมาจารย์ด้านรุกขวิทยาแห่งคณะวนศาสตร์

เมื่อวันที่ 4 เมษายน คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อาจารย์ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจ้าหน้าที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) โดยทีมงานทั้งหมดประกอบด้วย นายสุธีร์ ดวงใจ นายพรธวัช เฉลิมวงศ์ นายอรุณ สินบำรุง นายธีรวัฒน์ ทะนันไธสง นายคุณานนต์ ดาวนุไร น.ส.อนุสรา แก้วเหมือน นายมานพ ผู้พัฒน์ น.ส.วันวิสา ภูไชยศรี นายกุศล ตั้งใจพิทักษ์ นายภานุมาศ จันทร์สุวรรณ นายฉัตรชัย เงินแสงสรวย นายสุคิด เรืองเรื่อ และนายสมราน สุดดี ร่วมกันค้นพบ “ปอศรีสมนึก’ พรรณไม้สกุลใหม่และชนิดใหม่ของโลกจากแถบเทือกเขาตะนาวศรี ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติแก่ สมนึก ผ่องอำไพ ปรมาจารย์ด้านรุกขวิทยาแห่งคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ทั้งนี้พรรณไม้สกุลปอศรีสมนึก Somnuekia Duangjai, Chalermw., Sinbumr. & Suddee ได้รับการตีพิมพ์เป็นสกุลใหม่ของโลกพร้อมกับพรรณไม้ชนิดใหม่ Somnuekia flaviflora Duangjai, Chalermw., Sinbumr. & Suddee โดยได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร PhytoKeys 254: 221–243 (2025) DOI: 10.3897/phytokeys.254.141219 ปี ค.ศ. 2025 ภายใต้หัวข้อ “Somnuekia flaviflora (Malvaceae, Brownlowioideae), a new genus and species from Thailand”  ระบุชนิด “flavifloraแปลว่าดอกมีสีเหลือง ตัวอย่างต้นแบบ Chalermwong, Sinbumroong & Issarapakdee 20220317-01 เก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้ (BKF)

ADVERTISMENT

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ไม้ต้น สูงได้ถึง 35 เมตร เปลือกนอกสีน้ำตาลอมเทาหรือขาวอมเทา เปลือกเรียบหรือมีช่องอากาศกระจายห่าง ๆ เปลือกในสีน้ำตาลอ่อน กิ่งอ่อนมีขนหนาแน่น กิ่งแก่เกือบเกลี้ยง ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปไข่ถึงรูปหัวใจหรือคล้ายห้าเหลี่ยม กว้าง 9-21 ซม. ยาว 10-24 ซม. ปลายแหลมหรือเรียวแหลม โคนตัดหรือรูปหัวใจ ขอบเรียบหรือหยักซี่ฟันขนาดเล็กและมีขนครุย ด้านบนเกลี้ยงหรือเกือบเกลี้ยง ด้านล่างมีเกล็ดรูปดาวและขนสีน้ำตาลแดงหนาแน่น โดยเฉพาะตามเส้นกลางใบและเส้นแขนงใบ เส้นจากโคนใบ 5-7 เส้น เส้นแขนงใบข้างละ 4-6 เส้น เส้นใบย่อยแบบขั้นบันได ก้านใบยาว 5-22 ซม. บวมพองทั้ง 2 ด้าน มีขนสีน้ำตาลแดงหนาแน่น หูใบร่วงง่าย รูปไข่เบี้ยว โค้งเป็นแอ่ง ปลายเป็นติ่งแหลม ด้านในเกลี้ยง ด้านนอกมีขนหยาบแข็ง

ADVERTISMENT

ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกที่ปลายกิ่ง ช่อยาวได้ถึง 40 ซม. ส่วนต่าง ๆ ปกคลุมด้วยเกล็ดรูปดาวสีขาวอมเทา ใบประดับและใบประดับย่อยขนาดเล็ก ร่วงง่าย ดอกสมบูรณ์เพศ ดอกตูมรูปทรงไข่หรือทรงรูปรี ยาว 1-1.5 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปใบหอก ยาว 1-1.5 ซม. เรียงจดกันในดอกตูม ปลายแหลม ด้านในมีขนยาวสีเงินหนาแน่น ด้านนอกมีเกล็ดรูปดาวสีขาวอมเทาหนาแน่น กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลือง รูปช้อน ยาวประมาณ 1 ซม. เกลี้ยงทั้ง 2 ด้าน ก้านชูเกสรร่วมสั้น ยาวประมาณ 1 มม. เกลี้ยง เกสรเพศผู้ 25-50 เกสร สีเหลือง โคนเชื่อมติดกันเล็กน้อยเป็น 5 มัด อับเรณูติดที่ฐาน แตกตามยาว เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน 5 เกสร สั้นกว่าก้านชูอับเรณูของเกสรเพศผู้ที่สมบูรณ์ รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปทรงรี มีขนรูปดาวหนาแน่น มี 5 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 6-8 เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียยาวประมาณ 7 มม. เกลี้ยง ยอดเกสรเพศเมียขนาดเล็ก ผลแบบผลแห้งแตกกลางพู รูปทรงกระบอกสั้น ยาว 5-6 ซม. มีสันตามยาว 5 สัน มีเกล็ดรูปดาวหนาแน่น เมล็ดเกือบกลม สีน้ำตาลเข้ม มีเกล็ดสั้นรูปดาว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image