แพทย์เตือน ล้างหน้าในลำธาร ด.ญ. 3 ขวบ กำเดาไหลไม่หยุด 4 วันติด พบปลิงเกาะในจมูก
เมื่อวันที่ 7 เมษายน นพ.ไชยวัฒน์ ส่งเสริมปัญญากุล โสต ศอ นาสิก แพทย์โรงพยาบาลศูนย์นครพิงค์ เชียงใหม่ ได้แชร์เคสเตือนภัย เด็กหญิงวัย 3 ขวบ เลือดกำเดาไหลไม่หยุด 4 วัน หมอส่องกล้องในจมูกพบ “ปลิง” เกาะอยู่ใต้โพรงจมูก
โดยระบุว่า “ช่วงเวรดึกของวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา เด็กหญิงวัย 3 ขวบถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลอมก๋อย ด้วยอาการเลือดออกในจมูกข้างขวานาน 4 วัน หลังจากที่น้องไปล้างหน้าในลำธาร
หลังจากตรวจดูในโพรงจมูกอย่างละเอียด สิ่งที่พบคือ “ปลิง” เกาะอยู่ในโพรงจมูก จึงได้ใช้เครื่องดูดออกมาได้เรียบร้อย ตอนนี้น้องหายดี ไม่มีเลือดออกเพิ่มเติม คุณหมอจึงให้ยาฆ่าเชื้อและอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
การพบ ปลิงหรือทากในโพรงจมูก เป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อย แต่ก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่มีการใช้น้ำจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ลำธาร น้ำตก หรือบ่อน้ำที่ไม่ได้ผ่านการกรองหรือฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม
สาเหตุ : ปลิงหรือทากสามารถเข้าสู่โพรงจมูกได้ขณะคนไปว่ายน้ำ ดำน้ำ หรืออาบน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งอาจว่ายเข้าสู่โพรงจมูกหรือช่องต่างๆของร่างกายเช่น หู ช่องคลอด หรือท่อปัสสาวะโดยไม่รู้ตัว
อาการที่พบบ่อย
– เลือดกำเดาไหลซ้ำ ๆ โดยหาสาเหตุไม่ได้
– คัดจมูกหรือมีความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในจมูก
– จามหรือรู้สึกคันในโพรงจมูก
– ในบางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ หรืออ่อนเพลียจากการเสียเลือด เพราะปลิงดูดเลือดในโพรงจมูก
การวินิจฉัย : แพทย์จะใช้เครื่องมือส่องตรวจจมูก เช่น nasal speculum หรือกล้อง endoscope เพื่อดูภายในโพรงจมูก หากพบสิ่งแปลกปลอมแพทย์จะทำการนำออกอย่างระมัดระวัง
การรักษา : การเอาปลิงออกควรทำโดยแพทย์ เนื่องจากปลิงอาจเกาะแน่น ไม่ควรดึงออกเอง หากดึงออกไม่ถูกวิธีอาจทำให้เลือดออกมากได้ บางครั้งต้องใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือสารช่วยหล่อลื่นในการดึงปลิงออก หลังจากปลิงถูกเอาออก อาจมีการให้ยาฆ่าเชื้อหรือยาห้ามเลือด
การป้องกัน :
– หลีกเลี่ยงการใช้น้ำจากแหล่งธรรมชาติล้างหน้า ล้างจมูก แปรงฟัน หรือดื่มน้ำโดยตรง
– หลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำในพื้นที่ที่มีปลิงชุกชุม
– ใช้น้ำสะอาดผ่านการกรองหรือต้มก่อนใช้
– สังเกตอาการตนเองหลังเล่นน้ำ
ในช่วงฤดูร้อนนี้ ใครที่ลงเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อคลายร้อน แล้วมีอาการผิดปกติตามนี้ มาปรึกษาแพทย์ได้เลย