กรมอนามัยส่งวัสดุอุปกรณ์-ชุดทดสอบสุขาภิบาลและ สวล.เสริมทีมช่วยเมียนมา
วันนี้ (15 เมษายน 2568) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สธ. ส่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติในประเทศเมียนมา โดยกรมอนามัยยังได้ส่งทีม SEhRT เพื่อปฏิบัติภารกิจสนับสนุนด้านการจัดการสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ทั้งหมด 4 ทีม ทีมละ 2 คน
โดยทีมแรก ว่าที่ ร.ต.กิตติบดี โลกนุเคราะห์ สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ พร้อมด้วย น.ส.สัจมาน ตรันเจริญ สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม ร่วมลงปฏิบัติการในพื้นที่ประสบภัย พร้อมทั้งได้สนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ชุดทดสอบภาคสนาม และสารเคมีจัดการสุขาภิบาล สุขอนามัย และอนามัยสิ่งแวดล้อมสำหรับนำไปใช้ในการประเมิน เฝ้าระวังความเสี่ยง และจัดการสภาพแวดล้อมทั้งในน้ำ อาหาร และสภาพอากาศ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคที่อาจกระทบต่อสุขภาพหลังเกิดสถานการณ์แผ่นดินไหว จากการที่ระบบสาธารณูปโภคเสียหายในหลายพื้นที่
ด้าน นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของกรมอนามัย คือ การสนับสนุนด้านสุขาภิบาลและการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพของผู้ประสบภัยและทีมผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาด้านน้ำสะอาดและการควบคุมป้องกันปัจจัยเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ประสบภัย รวมถึงการเกิดโรคระบาดในช่วงภัยพิบัติ
กรมอนามัยจึงได้จัดส่งสิ่งของจำเป็นด้านสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมปฏิบัติงานภาคสนาม อาทิ คลอรีนน้ำ สำหรับฆ่าเชื้อโรคในน้ำ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำน้ำไปใช้อุปโภคบริโภคได้อย่างปลอดภัย ชุดทดสอบคลอรีนอิสระคงเหลือในน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่ามีปริมาณคลอรีนที่เพียงพอในการฆ่าเชื้อโรค ชุดทดสอบการปนเปื้อนเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรียภาคสนาม เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำเบื้องต้นในพื้นที่ ถุงดำและถุงแดงสำหรับการเก็บรวบรวมขยะและสิ่งปฏิกูลอย่างถูกสุขลักษณะ ชุดเราสะอาด (V-Clean) เพื่อสาธิตและให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลและสุขอนามัยในครัวเรือนแก่ประชาชน
“สิ่งของสนับสนุนเหล่านี้ จะถูกนำไปใช้โดยทีมสนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในการสำรวจ ประเมินความเสี่ยง เก็บตัวอย่าง และเฝ้าระวังด้านสุขาภิบาลและการปนเปื้อนเชื้อโรคในพื้นที่ประสบภัย โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะช่วยลดความเสี่ยงสุขภาพของประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว” นพ.ธิติ กล่าว