รองโฆษก สธ.เตือน ‘เมาเหล้า’ สงกรานต์เสี่ยงติดเอชไอวี แนะกลุ่มเสี่ยงรับยากินฟรีใน3วัน

รองโฆษก สธ.เตือน ‘เมาเหล้า’ สงกรานต์เสี่ยงติดเอชไอวี แนะกลุ่มเสี่ยงรับยากินฟรีใน3วัน

วันนี้ (15 เมษายน 2568) นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในช่วงสงกรานต์นี้ นอกจาก 7 วันอันตราย ในเรื่องของอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้ว การจัดงานรื่นเริงปาร์ตี้ในสถานที่ต่างๆ อาจทำให้ประชาชนเข้าถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ผู้คนหลากหลายกลุ่มวัย ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง หรือกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ อาจจะมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือไม่สวมถุงยางอนามัย ทำให้มีโอกาสการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ได้ง่าย โดยสถานการณ์ปัจจุบัน มีผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง คาดว่าผู้ติดเชื้อ HIV ยังไม่ทราบสถานะติดเชื้อของตนเอง และยังไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา ทำให้คนเหล่านี้ถ่ายทอดเชื้อไปยังคู่นอนต่อไป

“ในปี 2568 คาดว่า จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 8,862 คน โดยการติดเชื้อรายใหม่นั้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 60 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ จำนวน 10,217 คน และมีผู้ติดเชื้อ HIV สะสมยังคงมีชีวิตอยู่ จำนวน 568,565 คน ผมในฐานะอนุกรรมการในคณะกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ จากการประชุมที่ผ่านมา คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ซึ่ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการ สธ. เป็นประธานคณะกรรมการ ได้อนุมัติงบประมาณทั้งสิ้น 689 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2568 จัดซื้อยาป้องกันโรค HIV ก่อนเสี่ยงและหลังจากเกิดความเสี่ยงให้กับประชาชนฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น” นายจิรพงษ์ กล่าว

ADVERTISMENT

รองโฆษก สธ. กล่าวว่า ผู้ที่มีความเสี่ยง จะต้องไปรับยา PEP Post-Exposure Prophylaxis โดยจะต้องเริ่มรับประทานยาภายใน 72 ชั่วโมง หรือภายใน 3 วัน หลังมีความเสี่ยง และรับประทานติดต่อกันนาน 28 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV และประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมีพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อสามารถรับยา PrEP Pre-Exposure Prophylaxis เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ HIV ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เพราะมีรายละเอียดในเรื่องของวิธีการใช้

นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ประชาชนสามารถเข้ารับบริการในโรงพยาบาลในสังกัด สธ.แล้ว ยังมีการขยายความร่วมมือจัดบริการกับหน่วยบริการภาคประชาสังคม ได้แก่ Mplus เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก โคราช CareMet เชียงใหม่ SWING ชลบุรี RSAT อุบลราชธานี สงขลา มากไปกว่านั้นขณะนี้ สธ. และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. และประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) องค์การเภสัชกรรม ได้เจรจาตกลงที่จะขอซื้อยารักษาโรค HIV ชนิดใหม่ที่ออกฤทธิ์นาน มีทั่งรูปแบบฉีดและยารับประทาน จาก บริษัท Mylan สำหรับยาต้าน HIV Lenacapavir ให้กับผู้ป่วย HIV เมื่อการดำเนินการผลิตที่ประเทศอินเดียแล้วเสร็จ เพื่อให้ผู้ป่วย HIV และ เอดส์ ที่ดื้อยา และลดเวลาการที่จะต้องรับประทานยาทุกวัน

ADVERTISMENT

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image