อุตุฯชี้ ให้คนกรุงทำใจ จากนี้ฝนจะตกตอนเย็นหลังเลิกงานแทบทุกวัน
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยกับ มติชนออนไลน์ ว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่า ประเทศไทยกำลังจะสิ้นสุดฤดูร้อน และเข้าสู่ฤดูฝนในวันที่ 15 พฤษภาคม นั้น หลายๆ คนอาจจะมีความรู้สึกว่า ปีนี้ฤดูร้อนน้อย และฝนมาเร็ว แต่ความจริงรอบฤดูฝนก็เป็นไปตามปกติ แต่ปีนี้ พบว่า ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นมา มีฝนตกลงมาเรื่อยๆ ทำให้อุณหภูมิความร้อนน้อยลง โดยปีนี้ อากาศร้อนที่สุดอยู่ที่ 42.3 เซลเซียส เกิดขึ้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน คือ ไม่ร้อนมาจนเกินไปเหมือนปีที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า ปี 2568 จะมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปีก่อนๆ หรือไม่ นายสมควรกล่าวว่า ถ้าเทียบกันตลอดทั้งปีนั้น ปริมาณน้ำฝนไม่มากเท่ากับปี 2560 และปี 2565 โดยทั้ง 2 ปีดังกล่าวมีปริมาณน้ำฝนสูงกว่าค่าปกติ 24% เท่ากัน แต่ปีนี้คาดว่า ปริมาณน้ำฝนจะสูงกว่าค่าปกติเพียงแค่ 5-7% เท่านั้น เพียงแต่ฝนตกตั้งแต่ต้นปี และตกต่อเนื่องเรื่อยๆ จึงดูเหมือนมีฝนตกมาก และเข้าสู่ฤดูฝนเร็ว
“หลังจากวันที่ 15 พฤษภาคมเป็นต้นไป เมื่อมีฝนตกลงมาเราจะไม่เรียกพายุฤดูร้อนแล้ว แต่จะเรียกพายุฝนฟ้าคะนองแทน ซึ่งคาดว่าเดือนพฤษภาคมจะมีฝนตกเยอะกว่าทุกปี ตกเรื่อยๆ ไปถึงต้นเดือนมิถุนายน สำหรับคนกรุงเทพฯก็อาจจะต้องทำใจ เพราะลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะพัดจากทะเลอันดามันช่วงบ่ายๆ โดยเมฆฝนจะเริ่มก่อตัวที่บริเวณ จ.ราชบุรี นครปฐม และพัดเข้ามาในกรุงเทพราวๆ 4 โมงเย็น เป็นเช่นนี้ แทบทุกวัน หรือวันไหนที่มีอากาศแปรปรวน ก็อาจจะมีฝนตกตอนเช้าบ้าง” นายสมควรกล่าว
เมื่อถามว่า ปีนี้ประเทศไทยจะมีพายุเข้ามากกี่ลูก ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน แต่คาดการณ์ว่าน่าจะ 1-2 ลูก ต้องดูสถานการณ์ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมก่อน ถึงจะบอกได้ชัดเจนกว่านี้