ษัษฐรัมย์ จี้เปิดชื่อวัด ได้รับ ‘รถปลดประจำการ’ จากสปส. งงบริจาคแทนขาย ผู้ประกันตนได้อะไร?

ษัษฐรัมย์ ถามประกันสังคม ‘บริจาครถเก่า’ ผู้ประกันตนได้อะไร? ชี้ขายต่อยังมีเงินคืน 20%

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 23 พฤษภาคม ที่สำนักงานประกันสังคม จ.นนทบุรี นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน สำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงกรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) มีการบริจาครถยนต์ที่ปลดประจำการให้กับวัดต่างๆ แล้ว จากนั้นมีการส่งต่อให้กับบุคคลที่ 3 จึงมีการตั้งข้อสงสัยว่าเป็นกระบวนการอะไรหรือไม่ว่า เรื่องครุภัณฑ์ประกันสังคมเป็นสิ่งที่เราติดตามอยู่ตลอด และการใช้จ่ายของประกันสังคมปีหนึ่งประมาณ 5-6 พันล้านบาท

นายษัษฐรัมย์กล่าวอีกว่า ในส่วนของครุภัณฑ์รถยนต์ก็เป็นส่วนที่สังคมตั้งคำถาม โดยเฉพาะกรณีรถผู้บริหารหรือสิ่งต่างๆ แน่นอนว่ามีรถที่ได้ใช้จริงตามความจำเป็น เช่น รถที่ใช้ตามต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ รถตู้ โดยมีการจัดซื้อรถประมาณกว่า 100 ล้านบาท ถือว่าไม่ได้เยอะ และมีเกณฑ์การใช้ว่าใช้ประมาณ 5-8 ปี แต่เมื่อครบอายุแล้วมีการตั้งคำถามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาประกันสังคมใช้เงื่อนไขการบริจาคให้กับวัด

“ผมอยากชวนให้คิดตามว่า แม้จะเป็นรถที่ใช้มา 7-8 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีมูลค่า อย่างน้อยก็ 20% ของราคาซื้อขายในทีแรก หรืออย่างน้อยก็เป็นเงินประมาณ 20-30 ล้านบาท เพราะใช้มา 7-8 ปีแล้วมีการขายทอดตลาด ถ้าเราเอาไปบริจาค โอเคว่าเราได้บุญ แต่ผู้ประกันตนได้อะไร นี่ก็เป็นคำถามว่าทำไมเราพร้อมที่จะเสียเงิน 20-30 ล้าน ถ้าเทียบกับการขายทอดตลาด

ADVERTISMENT

ตามที่ นายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ยกประเด็นนี้ขึ้นมาก็น่าสนใจว่าการบริจาคให้วัดนั้นแล้ววัดเอาไปทำอะไรต่อ เคยมีลดหย่อนที่วัดไหม แล้วรถถูกส่งต่อไปให้ใครอีกในเวลาไม่กี่เดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้สังคมตั้งคำถามกับสาธารณกุศล วัดต่างๆ เรื่องนี้จึงจำเป็นต้องทำให้โปร่งใส ซึ่งผมได้ร้องขอต่อฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องว่าให้เปิดเผยรายชื่อวัดที่ได้สำนักงานประกันสังคมได้บริจาคไป” นายษัษฐรัมย์กล่าว

เมื่อถามว่า ปลัดกระทรวงแรงงานชี้แจงว่าการบริจาคคุ้มค่ากว่าการนำไปขายทอดตลาดซึ่งได้ราคาถูก นายษัษฐรัมย์กล่าวว่า ก็อย่างที่บอกว่าบุญ กับอะไรต่างๆ ก็ต่างกัน แต่อย่าลืมว่าประกันสังคมเป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก เงินที่ได้กลับคืนมา 10 ล้านบาท 20 ล้านบาท จาก 100 ล้านบาท ที่ใช้ไปก็ถือว่ามีค่า อย่างน้อยก็ทำให้ท่านมีงบทำปฏิทินต่อ เลิกบริจาครถยนต์ เอาเงินขายรถมาทำปฏิทินก็ได้ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องน่าเศร้าเหมือนกันที่กลไกการใช้งานงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนหลักสิบล้านคนไม่ได้ถูกคิดคำนึงอย่างรอบคอบ