แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูก 2 ขวบ เป็น ‘วัณโรคเทียม’ เริ่มจากตุ่มเล็ก ๆ ที่ขา สุดท้ายต้องตัดเนื้อทิ้ง

แม่แชร์อุทาหรณ์ ลูก 2 ขวบ เป็น ‘วัณโรคเทียม’ เริ่มจากตุ่มเล็ก ๆ ที่ขา สุดท้ายต้องตัดเนื้อทิ้ง

วันที่ 20 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ Drama-addict โพสต์เตือนโรคที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก แต่อันตรายครับ ‘วัณโรคเทียม’ โดยระบุข้อความว่า คุณแม่เขาฝากเคสลูกสาวมาเป็นอุทาหรณ์ จ่าคะของลูกหนูเป็นแบคทีเรียกินเนื้อชนิด มัยโครแบคทีเรีย หรือที่เรียกวัณโรคเทียม เชื้อดื้อยามาก ลูกเป็นตอน 2 ขวบกว่า เริ่มจากตุ่มเล็กๆ (คิดว่าน่าจะเกิดจากยุงกัดแล้วเกาผิวถลอก แล้วช่วงนั้นแถวบ้านน้ำทะเลหนุน ขับรถลุยน้ำเข้าบ้าน พอตอนลงรถขาลูกที่เกาแล้วถลอกไปถูกับรถที่ยังเปียกน้ำท่วมที่มีเชื้อนี้อยู่ เชื้อเลยเข้าทางแผลค่ะ

ตอนแรกคิดว่าฝี ไปรพ.หมอกรีดออก ให้ทานยาฆ่าเชื้อ แต่ไม่หายเป็นหนองอีก รักษาไป 3 รพ. เริ่มรักษา รพ. แรก ตอนสิงหาคม ปี 2566 มาจบ รพ.ที่3 คือ รพ. ศิริราช อาจารย์หมอดูประวัติรักษา ตัดสินใจรีบนัดผ่าตัดเอาเนื้อที่ติดเชื้อทิ้ง ภายใน 1 อาทิตย์ หลังจากที่พาลูกไปหาครั้งแรก (ผ่าไปเมื่อ มกราคม ปี 2567) แล้วนัดติดตามอาการมาถึง 1 ปี ตอนนี้หายดีค่ะ แต่เนื้อยังขึ้นไม่เต็ม

คนหลายคนไม่ค่อยรู้ คิดว่าเป็นฝี รักษาผิดๆ ก็เยอะ พอนั่นเชื้อลามเข้ากระแสเลือดรักษาไม่ทัน อยากให้คนใส่ใจติดตามอาการค่ะ

ADVERTISMENT

เริ่มจากจุดเล็กๆนี้ มาสู่การรักษาโดยตัดเนื้อทิ้งเสียเวลา และค่ารักษาไปเยอะค่ะ พอดีเห็นตอนนี้มีเคสคนเสียชีวิตเรื่องแบคทีเรียกินเนื้อ เลยอยากให้เป็นกรณีศึกษาค่ะ ตอนนี้น้องหายดีแล้ว 5 ขวบแล้ว กรีดครั้งแรกค่ะ หมอเลยขอส่งตรวจเชื้อด้วยเพราะก่อนไปซื้อยาทากับยาฆ่าเชื้อจากร้านขายยาทาน แต่ไม่หาย

หมอที่ รพ.แรกที่รักษา เลยส่งเพาะเชื้อ แล้วเจอผลเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อนี้ค่ะ อันนี้ย้ายมารพ ที่2 ค่ะ กรีดครั้งที่2 แล้วถ้าสังเกต จะเห็นจุดแดงๆ เหนือแผลที่กรีด นั่นคือเริ่มเป็นจุดใหม่อีกที่ค่ะ

จุดใหม่เริ่มเห็นชัดค่ะ หมอเลยเรียกคุย ว่าสุดความสามารถ เพราะนอนรักษาในห้อง 1 เดือนเต็ม ให้ยาฆ่าเชื้อ2 ตัว สลับกันทุก6และ8 ชม. 1 เดือนเต็ม นอนแยกออกจากผู้ป่วยอื่นอยู่แต่ในห้องไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะ สรุปไม่หาย หมอเลยคุยว่าอาจต้องย้ายไปรพ.นักเรียนแพทย์ เราเลยพาไปที่ รพ.ศิริราช เป็น รพ.ที่3 ค่ะ

จบด้วยการตัดเนื้อส่วนที่มีเชื้อแบคทีเรียออกค่ะ อาจารย์หมอบอกตัดออกลึกไปหลายชั้น เกือบถึงกระดูกไม่อยากให้คนอื่นๆที่เจอเชื้อพวกนี่ชะล่าใจค่ะ มันอันตรายมาก บางคนคิดว่าเดี๋ยวก็หาย จริงๆ ถ้าทานยาฆ่าเชื้อครบโดสไม่หาย ควรรีบพบแพทย์ค่ะ