‘สมศักดิ์’ ลุยเขต4 คัดกรอง ‘วัณโรค-ไวรัสตับ’ รู้ผลทันที! เผยกว่า 33 ล้านคน นับคาร์บได้แล้ว

‘สมศักดิ์’ ลุยเขต4 คัดกรอง ‘วัณโรค-ไวรัสตับ’ รู้ผลทันที! เผยกว่า 33 ล้านคน นับคาร์บได้แล้ว

วันนี้ (23 มิถุนายน 2568) ที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดงาน “One Day Service : คัดกรองเร็ว รู้ผลไว ป้องกันโรคได้ เขตสุขภาพที่ 4” พร้อมมอบโล่รางวัลให้จังหวัดที่ดำเนินการคัดกรองวัณโรค ไวรัสตับอักเสบบีและซี ดีเด่นของเขตสุขภาพ ที่ 4, หน่วยงานสนับสนุนการดำเนินงาน และจังหวัดต้นแบบ One Day Service รวม 20 รางวัล

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วัณโรค โรคไวรัสตับอักเสบบีและซี รวมถึงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ยังคงเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุข โดยแต่ละวัน ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากวัณโรคกว่า 4,000 คน เสียชีวิตด้วยโรคไวรัสตับอักเสบบีประมาณ 820,000 คน ส่วนโรค NCDs เป็น 1 ใน 10 อันดับแรกของสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรไทย

ADVERTISMENT

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่หากตรวจพบเร็วและรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยให้หายขาดได้ และไม่แพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น สำหรับไวรัสตับอักเสบบีและซี ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตับอักเสบเรื้อรัง การตรวจคัดกรองและรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่่สำคัญของคนไทยได้ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมสุขภาพทุกมิติ เพื่อให้คนไทยห่างไกลโรค และภัยสุขภาพถ้วนหน้า เกิดความตระหนักและให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ช่วยให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาวัณโรค ไวรัสตับอักเสบบีและซี รวมถึงโรค NCDs เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. กล่าวว่า ความครอบคลุมการขึ้นทะเบียนผู้ป่วยรายใหม่และอัตราการกลับซ้ำของวัณโรคในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 4 มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงค่าเป้าหมาย ขณะที่ผู้ได้รับการคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี เข้าสู่กระบวนการรักษาและได้รับยาเพียงร้อยละ 40.93 ของผู้ที่มีผลการตรวจยืนยันทั้งหมด อีกทั้งพบกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สูงกว่าภาพรวมประเทศ จึงมีการจัด “One Day Service” ซึ่งเป็นระบบการคัดกรองรูปแบบใหม่ในการให้บริการเชิงรุก ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ใน 1 วัน คัดกรองโรคตามความเสี่ยงได้หลายโรค ประชาชนทราบผลได้ทันที ลดระยะเวลาการรอคอย ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดการแพร่เชื้อในชุมชน

โดยดำเนินการทั้งในชุมชน เรือนจำ โรงงาน สถานประกอบการ และย่านการค้าพื้นที่เขตเมือง ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 4 ทั้ง 8 จังหวัด ด้วยการมีส่วนร่วมของเครือข่าย ซึ่งหากดำเนินการได้ครอบคลุมจะสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐในการรักษาพยาบาลวัณโรคได้มากกว่า 20 ล้านบาทต่อปี และลดค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งตับจากไวรัสตับอักเสบบีและซีได้ถึง 44 ล้านบาทต่อปี

จากนั้น นายสมศักดิ์และคณะ เปิดงานดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและคัดกรองความเสี่ยงโรคไต จ.พระนครศรีอยุธยา ที่โรงพยาบาล (รพ.) เสนา

นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานนโยบายคนไทยห่างไกล NCDs ล่าสุด ประชาชนกว่า 33 ล้านคน ได้รับการถ่ายทอดความรู้ในการดูแลสุขภาพ การนับคาร์บ หรือคาร์โบไฮเดรต จากแป้งและน้ำตาล และภายในเดือนกันยายนนี้ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 50 ล้านคน ตามเป้าหมาย ส่วนการดำเนินงานคลินิก NCDs รักษาหาย ที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์ และ โรงพยาบาลทั่วไป 134 แห่ง ทั่วประเทศ พบว่า จากผู้ป่วยที่เข้ารับการอบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประมาณ 120,000 คน หายป่วยแล้วประมาณ 17,000 คน และหยุดยาได้กว่า 8,500 คน ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 450 ล้านบาทต่อปี