‘สมศักดิ์’ ปลื้มมหกรรมสมุนไพรฯ5วัน เกือบ 3 แสนคน รายได้กว่า 198 ล. ลุยวิจัยสร้างการยอมรับ
วันนี้ (6 กรกฎาคม 2568) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เยี่ยมชมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22 “ภูมิปัญญาไทย ซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างเศรษฐกิจไทย” ทั้งโซนนวดไทยพรีเมียม 7 กลุ่มอาการ, โซนสมุนไพรต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ, โซนผลิตภัณฑ์, โซนนวัตกรรม, โซนภูมิปัญญา และโซนบริการ รวมทั้งนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) , มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร, องค์การเภสัชกรรม (อภ.) พร้อมมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านของหมอนวดไทย จำนวน 9 รางวัล และสาธิตเมนูสุขภาพจากสมุนไพรไทย “เมี่ยงลิ้นจี่สโกบี้กระทงทอง และ ม็อคเทล Goodbye NCDs”
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22 วันนี้ (6 กรกฎาคม 2568) มีผู้เข้าชมงาน รวม 2.87 แสนคน คาดจบการจัดงาน 5 วัน จะมีผู้เข้าชมงานรวมกว่า 3 แสนคน มีการจับคู่ทางธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรไทยถึง 219 คู่ค้า สร้างรายได้จากการจัดงานรวมกว่า 198 ล้านบาท เฉพาะการซื้อขายที่เป็นเงินสดเกือบ 50 ล้านบาท
“เมื่อเทียบกับการจัดงานสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ถือว่ามีการเจริญเติบโตอย่างชัดเจน ซึ่งรัฐบาลได้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนางานการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และสมุนไพรไทย ในปีงบประมาณ 2569 จึงมีการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นวงเงินถึง 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ สธ.ยังสนับสนุนให้มีการใช้สมุนไพรไทย ยาไทย ในโรงพยาบาลควบคู่กับยาแผนปัจจุบัน ซึ่งจะเร่งรัดในด้านการพัฒนางานวิจัยสมุนไพรไทยที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้สมุนไพรไทยเป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่น ลดช่องว่างระหว่างการใช้ยาแผนไทยและแผนปัจจุบัน เพราะคนไทยรักประเทศไทย รักความเป็นไทย สมุนไพรไทยต้องโตไปพร้อมกับคนไทย” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน น.ส.รัชนี จันทร์เกษ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า การจัดการงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22 มีกิจกรรมที่หลากหลาย ตอบโจทย์กับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุทั้งกายและใจให้แข็งแรง ซึ่งอยู่ในโซนเซอร์วิส มีกิจกรรมเวิร์กช้อปในทุกวัน อาทิ การทำอาหารถิ่น กินเป็นไม่ป่วย การทำขนมจากมะระขี้นก สามารถมาร่วมกิจกรรมได้ นอกจากนี้ภายในงานยังมีการสาธิต นวัตกรรมดูแลผู้สูงวัย เช่น ชักรอกเพื่อให้มีการใช้กล้ามเนื้อ เหยียบแผงไข่มะกรูดลดอาการชา ยางยืดพิชิตโลก
“โดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ มุ่งเน้นภารกิจการดูแลผู้สูงวัย ให้มีสุขภาพกายใจที่แข็งแรงอยู่เสมอ ที่ผ่านมา มีการจัดสรรงบประมาณดูแลผู้สูงอายุที่ติดบ้านให้มาติดสังคมแทน เพื่อลดการติดเตียง เพราะถ้าติดเตียงอาจมีการใช้ยารวมถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา เป็นภาระด้านงบประมาณให้กับภาครัฐ จึงพยายามให้หันมา ติดสังคม โดยมีการจัดประกวดชมรมผู้สูงอายุให้ทำกิจกรรมเป็นกลุ่ม พบปะพูดคุยกัน มีกิจกรรมร่วมกัน ทำให้มีสุขภาพกายใจที่ดี สิ่งสำคัญต้องการให้ผู้สูงอายุเกิดการเคลื่อนไหว ไม่ให้เกิดอาการซึมเศร้า” น.ส.รัชนี กล่าว
น.ส.รัชนี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO (เบโด้) ได้เน้นถึงการดูแลสุขภาพผู้สูงวัย โดยมีการคัดเลือกสมุนไพร จากฐานข้อมูลบัญชีรายการสมุนไพรระดับชุมชน ตั้งแต่ปี 2561-2564 แบ่งกลุ่มอาการสูงวัย 1.กลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) 2. กลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหารได้แก่ ยาขับลม บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ บรรเทาอาการท้องผูก บรรเทาอาการท้องเสีย บรรเทาริดสีดวงทวารหนัก รักษาแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน 3.กลุ่มอาการทาง สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา 4. ยาแก้ไข้ 5.กลุ่มอาการทางระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ บรรเทาอาการไอ บรรเทาอาการหวัด 6.ยาบำรุงโลหิต 7.กลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูก 8.ยาบำรุงธาตุ ปรับธาตุ 9.กลุ่มอาการทางระบบผิวหนัง 10.กลุ่มอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะ
“นอกจากนี้ ยังได้พิจารณากลุ่มโรคหรืออาการที่สามารถพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มาคัดเลือกพืชสมุนไพรด้วย โดยมีได้คัดเลือกพืชสมุนไพรเพื่อการรักษาสุภาพสำหรับผู้สูงวังวัย จำนวน 365 ชนิด พบว่า พืชสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ และบรรเทาอาการที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในระดับชุมชน ได้แก่ ขมิ้นชัน มะขามป้อม บอระเพ็ด รางจืด เจตมูลเพลิงแดง ทองพันชั่ง ไพล สัมป่อย ขี้เหล็ก ช้าพลู ดีปลี มะขาม เถาย่านาง ชุมเห็ดเทศ มะรุม และยังมีพืชสมุนไพรที่ใช้บรรเทาอาการที่พบบ่อย และไม่ได้ระบุให้บัญชียาหลักแห่งชาติ แต่ใช้แพร่หลาย ในชุมชน ได้แก่ สะเดา ยอ เขยตาย มะพร้าว หนาดใหญ่” น.ส.รัชนี กล่าว