กรมคุมโรคสอบข้อมูลผู้ป่วย ‘ฝีดาษลิง’ เชียงใหม่ ปีนี้ไทยพบแล้ว 40 ราย ชี้เพศสัมพันธ์ต้นเหตุแพร่เชื้อ
จากกรณีทีมบริหารโรงพยาบาล (รพ.) มหาราชนครเชียงใหม่ แจ้งด่วนถึงอาจารย์แพทย์ เจ้าหน้าที่พยาบาล แพทย์ประจำบ้าน เจ้าหน้าที่ที่ต้องพบปะผู้ป่วย และนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ว่า ในขณะนี้พบผู้ป่วยฝีดาษวานร (MPOX) ใน จ.เชียงใหม่ นั้น
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นผู้ป่วยรายดังกล่าวอยู่ระหว่างการรักษาและการสอบสวนข้อมูล
“โดยสถานการณ์ฝีดาษวานรในปัจจุบัน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2568 มีผู้ป่วยฝีดาษวานรสะสม จำนวน 39 ราย ซึ่งขณะนี้พบผู้ป่วยเพิ่มใน จ.เชียงใหม่ ก็จะทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 40 ราย หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2565 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยสะสมกว่า 900 ราย และมีผู้เสียชีวิต 13 ราย ซึ่งสถานการณ์ในปี 2568 นี้ ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ เมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา ที่พบผู้ป่วยฝีดาษวาระจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในประเทศ มีเพียงแค่ 5 ราย ที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ” พญ.จุไร กล่าว
โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า โดยกลุ่มผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุเฉลี่ยระหว่าง 20–39 ปี ซึ่งเป็นวัยที่มีกำลังทำกิจกรรมทางสังคม โดยกลุ่มที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องร่วมกับมีโรคประจำตัว ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงพื้นฐาน ซึ่งอาจส่งผลให้มีความรุนแรงขึ้นได้ และผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรในประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มเสี่ยงเฉพาะ โดยที่ผ่านมา ได้รับการรายงานจากต่างจังหวัดราว 3-4 ราย ทุกรายมีประวัติทางเพศสัมพันธ์ที่เป็นทางหลักในการแพร่ระบาดของผู้ป่วยฝีดาษวานรในประเทศไทย
“อย่างไรก็ตาม ยังคงพบผู้ป่วยรายใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยช่องทางหลักของการแพร่เชื้อ คือ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การไม่สวมถุงยางอนามัย และการมีคู่นอนหลายคน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักในกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัย โดยการสวมถุงยางอนามัยจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อฝีดาษวานรได้ นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น โรคเอดส์ โรคซิฟิลิส เป็นต้น ที่พบมากขึ้นในปัจจุบัน” พญ.จุไร กล่าว
นอกจากนี้ พญ.จุไร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังคงมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรคฝีดาษวานรจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยมีมาตรการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น ทวีปแอฟริกา และตะวันออกกลาง