สุดรันทด ครอบครัวพิการหาเช้ากินค่ำ เจอเคราะห์ซ้ำ รถชนลูกสาวผู้คอยหาเลี้ยงต้องตัดขาทิ้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานวา เมื่อเวลา 15.00น.วันที่ 6 มี.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ห้องเลขที่ 143/5 ที่ชั้น 1อาคาร 13 การเคหะเอื้ออาทร ห้าแยกปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากที่มีผู้แชร์ภาพขอความช่วยเหลือส่งต่อกันในโลกโซเชียล ให้ช่วยเหลือครอบครัวพิการ พ่อ แม่และลูก ครอบครัวหนึ่ง ที่แม่พิการขาทั้งสองข้างและลูกสาว(ไม่พิการ)ได้รับประสบอุบัติเหตุระหว่างขับรถจยย.สามล้อ(สำหรับผู้พิการ)กลับจากการขายไอศครีมแท่งเพื่อหาเลี้ยงชีพ ซึ่งระหว่างทางกลับบ้านได้ถูกรถประจำทางสาย 33 ของ (บริษัท กิตติสุนทร จำกัด )เฉี่ยวชนท้ายรถสามล้อที่สอง-แม่ลูกใช้เป็นพาหนะ จนแม่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนตัวบุตรสาววัย 9ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยล่าสุดทางทีมแพทย์ได้ทำการตัดขาขวาทิ้ง

สืบเนื่องจากช่วงค่ำเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและทีมกู้ชีพ ร.พ.ชลประทาน ได้เร่งตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถประจำทางสาย 33 เฉี่ยวชนรถ 3 ล้อดัดแปลงของคนพิการมีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุเกิดบริเวณห้าแยกปากเกร็ด ถนนติวานนท์ ในท้องที่ของ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุพบรถประจำทางสาย 33 (บริษัท กิตติสุนทร จำกัด ) วิ่งระหว่างปทุมธานี – สนามหลวง หมายเลขทะเบียน 10-3630 กทม.จอดอยู่โดยมีนายจันดี บุรมศรี อายุ 67 ปีเป็นพนักงานขับรถยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถ 3 ล้อเครื่องดัดแปลงยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะบียน ษบท 979 กทม ที่คนพิการใช้เป็นพาหนะ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งช่วยเหลือ นางกมลวรรณ เจริญศิริ อายุ 48 ปี ซึ่งพิการทางขาและบุตรสาว ด.ญ.ชุติกาณ์หรือแหวน มีภัย อายุ 9 ปี ซึ่งอาการของเด็กหญิงดังกล่าวไม่รู้สึกตัวตาลอยและที่บริเวณต้นขาขวาฉีก ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยได้เร่งให้การช่วยเหลือนำตัวส่ง ร.พ.ชลประทานเพื่อให้แพทย์รักษาทันที ขณะเดียวกันนายจันดี ฯ ซึ่งเป็นพนักงานขับรถประจำทางคันดังกล่าวอ้างว่าในขณะที่ได้รับสัญญานไฟเขียวและเร่งเครื่องพยายามให้พ้นแยกนั้น ได้ยืนยันว่าไม่เห็นรถ 3 ล้อเครื่องของคนพิการคันดังกล่าวจึงได้เฉี่ยวชนจนทั้ง 2 แม่ลูกได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยล่าสุดทางทีมแพทย์ของร.พ.ชลประทาน ได้ทำการส่งตัวน้องแหวนไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากมีทีมแพทย์และเครื่องมือที่ทันสมัยกว่า

ขณะที่วันนี้ได้มีประชาชนที่ทราบข่าวจากทางเฟสบุ้ค ที่ได้มีการแชร์ส่งต่อกันในโลกออน์ไลน์ ทำให้มีประชาชนต่างทยอยนำเงินมาช่วยเหลือกับนางกมลวรรณ เจริญศิริ ผู้เป็นแม่ เพื่อนำเงินบริจาคดังกล่าวไปใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล ให้กับ ด.ญ.ชุติกาณ์หรือแหวน ที่ยังรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง

Advertisement

ด้านนางกมลวรรณ เจริญศิริ ผู้เป็นแม่ได้กล่าวว่า ตนเองนั้นพิการทางขาทั้งสองข้างส่วนสามีพิการทางแขน โดยทุกวันนี้ได้น้องแหวนซึ่งเป็นบุตรสาว ที่เปรียบเสมือน เป็นขา เป็นแขน ค่อยช่วยเหลือทุกอย่างภายในบ้านรวมถึงช่วยค้าขาย ไอศครีมแท่งหลังเลิกเรียน และมีรายได้แต่ละเดือนไม่แน่นอน ส่วนรายจ่ายตกเดือนละ 8,000-9,000บาท และตนได้รับล็อตเตอรี่มาขายเพื่อเพิ่มรายได้ยังชีพอีกส่วนหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้จะเกิดขึ้นโดยทำให้น้องแหวนต้องเสียขาขวาไป และอาการยังสาหัสอยู่ จึงทำให้ตอนนี้ทางครอบครัวลำบากมากทั้งมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลจำนวนหลายหมื่นบาท รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นและตอนนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องหรือบริษัทประกันภัยของรถประจำทางคู่กรณีดังกล่าวติดต่อเข้ามาดูแลช่วยเหลือแต่ประการใด

ส่วนทางด้านคดีความทาง ร.ต.อ.ภานุวัฒน์ หะรังศรี พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด แจ้งว่าได้รวบรวมพยานหลักฐานสอบปากคำผู้เสียหายและทางผู้ขับขี่รถประจำทาง เพิ่มเติมประกอบสำนวนคดีและเบื้องต้นทางผู้ขับขี่รถประจำทางได้ยอมรับผิด จึงวอนผู้เมตตาใจบุญทางสังคมและผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน พร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือทางครอบครัวของตนด้วย หรือช่วยเหลือบริจาคได้ที่บัญชีชื่อ นางกมลวรรณ เจริญศิริ ธนาคาร กรุงเทพฯ เลขที่ 807-0-15387-0 สาขา เทสโก้ โลตัส ปากเกร็ด และธนาคารกรุงไทย เลขที่ 123-0-16550-9 สาขาปากเกร็ด ชื่อนางกมลวรรณ เจริญศิริ เบอร์โทร 08-1556-0918

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image