เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ศาลาว่าการ กทม. นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานประชุมการจัดงานสงกรานต์และเล่นน้ำสงกรานต์อย่างมีคุณค่าและประหยัด โดยมีผู้แทนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กทม. ผู้อำนวยการเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมหารือ
จากนั้น นายอมร เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติให้จัดงานประเพณีสงกรานต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทุกแห่ง เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-14 เมษายน ภายใต้คำขวัญ “ประเพณีสงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า” โดยอนุญาตให้เล่นน้ำถึงเวลา 21.00 น.เท่านั้น และยังคงมาตรการ 4 ป.คือ ปลอดแอลกอฮอล์ ปลอดโป๊ ปลอดปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่ และปลอดแป้ง แต่จะเพิ่มอีก ป.คือ ประหยัดน้ำ
“ทุกฝ่ายทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และภาคเอกชนผู้จัดงานต่างเห็นด้วยในการจัดงานช่วงวันดังกล่าว เพื่อรณรงค์ลดการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งที่ประสบวิกฤตทั่วประเทศ ทั้งนี้ในวันที่ 12 เมษายน จะมีพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ จากพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไปประดิษฐานยังท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนสักการะ และอัญเชิญกลับในวันที่ 14 เมษายน ส่วนในวันที่ 15 เมษายน ขอให้เป็นวันครอบครัวที่ประชาชนได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน โดย กทม.จะได้ร่วมกับหน่วยงานที่ดูแลระบบขนส่งมวลชนในการลดค่าโดยสารให้ประชาชนที่เดินทางเป็นครอบครัวด้วย” นายอมร กล่าวและว่า จากการประชุมถือว่า ภาคเอกชนเข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยผู้ประกอบการถนนสีลมและศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด จะยกเลิกอุโมงค์น้ำและยกเลิกจุดเติมน้ำที่เคยมีให้บริการ ดังนั้นประชาชนต้องนำน้ำมาจากที่บ้านเท่านั้น เพราะไม่มีจุดให้เติมน้ำ ส่วนที่ถนนข้าวสาร ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพระนครจัดกิจกรรมรณรงค์การใช้น้ำให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบและเข้าใจ ทั้งนี้ในการจัดกิจกรรมถึงเวลา 21.00 น.นั้น ทั้ง 50 สำนักงานเขต จะดูแลผู้ค้าในจุดจัดงานให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วย
นายอมร กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้เปิดเผยสถิติการใช้น้ำแต่ละวัน ซึ่งมีการใช้น้ำ 200 ลิตรต่อคน แต่ในช่วงสงกรานต์คนไทยจะใช้น้ำเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า แม้ว่าในภาพรวมการใช้น้ำในกรุงเทพฯ ช่วงสงกรานต์จะลดลง เนื่องจากส่วนหนึ่งประชาชนเดินทางกลับบ้าน แต่การใช้น้ำต่อคนยังคงสูงขึ้น 3 เท่า ดังนั้นช่วงภัยแล้งจึงขอความร่วมมือทุกคนตระหนักถึงเรื่องนี้
