เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นพ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ. เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัด สธ. นพ. สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายอับดุล อิลาห์ อัลชุอัยบี อุปทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำประเทศไทย ดร. ยูซุฟ บินดุลเลาะห์ อัลฮามูดี ทูตวัฒนธรรมซาอุดิอาระเบีย ประจำประเทศไทย และนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ร่วมพิธีเปิดโครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคติดต่อแก่ชาวไทยมุสลิมที่ไปแสวงบุญพิธีฮัจย์ ประจำปี 2561 ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมีผู้รับบริการฉีดวัคซีน จำนวน 2,000 คน ที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ กรุงเทพมหานคร
นพ. ปิยะสกล กล่าวว่า สธ.มีแนวทางการดูแลสุขภาพผู้แสวงบุญ โดยก่อนเดินทางจะตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรีแก่ผู้ที่จะเดินทางไปพิธีฮัจย์ และปีนี้มีการเตรียมระบบฐานข้อมูลด้านสุขภาพของผู้แสวงบุญ เพื่อการเฝ้าระวังและติดตาม โดยจะรายงานสถานะสุขภาพแบบปัจจุบัน (Real time) และมีสมุดประวัติการรับวัคซีนที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ พร้อมทั้งส่งหน่วยแพทย์ฮัจย์ไทย (Thai hajj medical office) ประกอบด้วย ทีมสหวิชาชีพ 3 ทีม รวม 42 คน ดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยระหว่างการประกอบพิธีฮัจย์ด้วย
นพ. เจษฎา กล่าวว่า ปีนี้มีชาวไทยมุสลิม 13,000 คน เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ สามารถรับบริการฉีดวัคซีนก่อนเดินทางได้ที่ 1.สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี 2.สถานเสาวภา สภากาชาดไทย กรุงเทพฯ 3.รพ. เวชศาสตร์เขตร้อน 4.ศูนย์วัณโรคเขต 1 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเชียงใหม่ 5.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) 14 จังหวัดภาคใต้ 6.ศูนย์หาดใหญ่นวรัตน์ จ.สงขลา 7.คลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว 9 แห่ง 8.ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าเรือกรุงเทพ 9.ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานหาดใหญ่ 10.ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศพรมแดนสะเดา และ 11.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง
