อย.แจงปฏิบัติการเข้ม ฟัน ‘เมจิก สกิน’ ลั่นพบทำผิดอีกดำเนินคดีถึงที่สุด

เมื่อวันที่ 22 เมษายน นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยถึงการดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัท เมจิก สกิน จำกัด ว่า จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางที่ผลิตโดยบริษัทดังกล่าว พบว่าทั้งหมดผลิตที่บ้านเลขที่ 540/1 ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยได้ยึดอายัดผลิตภัณฑ์บางส่วน เช่น Linda Drink, Chlorophyll Detox Fiber, Apple Slim, Shi-No-Bi- และ Treechada (Underarm Serum) สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารนั้น จากการตรวจสอบฐานข้อมูลของ อย. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา ไม่พบข้อมูลของบริษัท เมจิก สกินฯ และนางวรรณภา พวงสน เกี่ยวกับการขออนุญาตผลิตอาหาร นอกจากนี้ ยังพบผลิตภัณฑ์อาหารอีก 3 รายการ ได้แก่ 1.SNOW Milk 2.Fit Yoksod และ 3.Slim milk ผลิตโดยบริษัท เมจิก สกินฯ หลังมีผู้ร้องเรียนไปสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ตรวจพบการกระทำที่ผิดกฎหมายคือ ผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง โทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท ผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผลิตเพื่อจำหน่ายอาหารปลอม กรณีแสดงฉลากเพื่อลวง หรือพยายามลวงให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดในลักษณะพิเศษว่า ได้รับเลขสารบบอาหาร ณ สถานที่ผลิตแห่งนี้แล้ว โทษจำคุก 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับ 5,000-100,000 บาท ทั้งนี้ อย.ได้ดำเนินการออกคำสั่งระงับการผลิต ณ บ้านเลขที่ดังกล่าว เพื่อมิให้มีการผลิตสินค้าที่หลอกลวงผู้บริโภคอีกต่อไป

นพ.วันชัย กล่าวว่า ส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้ผู้จดแจ้ง ชื่อ นางวรรณภา พวงสน ที่อยู่ 588/81 ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จำนวน 227 รายการ ซึ่งจากการตรวจสอบสถานที่ผลิตตามที่ได้จดแจ้งไว้ พบว่าไม่มีสภาพการผลิตและไม่พบเครื่องมือเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมทั้งสารเคมีและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตเครื่องสำอางแต่อย่างใด ดังนั้น เครื่องสำอาง 227 รายการ จึงเป็นเครื่องสำอางที่ผลิตไม่ตรงตามที่ได้จดแจ้งไว้ นอกจากนี้ ยังได้ตรวจพบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้ผู้จดแจ้งชื่อ บริษัท เมจิก สกินฯ จำนวน 41 ราย ซึ่งจากคำให้การของกรรมการบริษัท เมจิก สกินฯ รับสารภาพว่าไม่ได้ทำการผลิตเครื่องสำอาง ดังนั้น จึงถือได้ว่าเครื่องสำอางที่ตรวจพบผลิตจากสถานที่ที่ไม่ตรงตามที่ได้จดแจ้งไว้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ผู้จดแจ้งทั้ง 2 แห่ง ได้กระทำผิดกฎหมาย ฐานผู้จดแจ้งผลิตเครื่องสำอางไม่ตรงตามที่ได้จดแจ้งไว้ โทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

“นอกจากนี้ อย.ยังได้ออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง สั่งให้ระงับการกระทำฝ่าฝืน หรือแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยให้ระงับการผลิตและขายเครื่องสำอางทุกรายการที่จดแจ้งในนามของนางวรรณภา พวงสน ได้แก่ สถานที่ผลิตเลขที่ 588/81 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา จำนวน 227 รายการ ซึ่งผลิตจากสถานที่ไม่ตรงตามสถานที่ที่ได้จดแจ้งไว้ และที่จดแจ้งในนามบริษัท เมจิก สกินฯ บ้านเลขที่ 522/46 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จำนวน 39 รายการ ซึ่งผลิตจากสถานที่ที่ไม่ตรงตามสถานที่ที่ได้จดแจ้งไว้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่ถูกระงับได้ที่เว็บไซต์ของ อย. www.fda.moph.go.th รวมทั้งมีคำสั่งเพิกถอนใบรับจดแจ้งเครื่องสำอาง และมีคำสั่งเรียกเก็บคืนเครื่องสำอางที่จดแจ้งในนามนางวรรณภา พวงสน และที่จดแจ้งในนามบริษัท เมจิก สกินฯ เพื่อ อย.จะได้นำไปทำลายต่อไปด้วย” นพ.วันชัย กล่าว

นอกจากนี้ นพ.วันชัย กล่าวถึงการดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัท เมจิก สกินฯ ว่า ตามความผิดข้างต้น อย.ได้มีการแถลงรายละเอียดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 และได้ออกข่าวแจ้งผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิก สกินฯ ถือว่าผิดกฎหมายแล้ว ขอย้ำว่าหากมีผู้จำหน่ายรายใดที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ฉลากระบุว่าผลิตโดยบริษัท เมจิก สกินฯ และที่ฉลากมีการแสดงเลขสารบบอาหาร ก็ถือว่าเป็นการจำหน่ายอาหารปลอม มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับ 5,000-100,000 บาท แต่หากกรณีอาหารนั้นไม่แสดงเลขสารบบอาหารก็ยังคงถือว่าเป็นการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท

Advertisement

นพ.วันชัย กล่าวว่า กรณีของบริษัท เมจิก สกินฯ เจ้าหน้าที่ อย.ได้ปฏิบัติงานตรวจสอบดำเนินคดีตามกฎหมาย อย. อย่างเคร่งครัด จนตำรวจสามารถบุกจับเครือข่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ เพื่อมิให้ประชาชนได้รับอันตรายจากผลิตภัณฑ์และผู้จำหน่ายถูกหลอกลวงอีก อย.ขอย้ำเตือนผู้ประกอบการอย่าลักลอบผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางโดยผิดกฎหมาย และปรามไปยังผู้จัดจำหน่ายทั้งรายใหญ่และรายย่อย รวมถึงพรีเซ็นเตอร์ หากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหรือการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุด ส่วนของผู้บริโภคขอให้ระมัดระวังการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ อย่าได้หลงเชื่อสรรพคุณที่อวดอ้างเกินจริงผ่านทางสื่อต่างๆ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย เพราะนอกจากจะเสียเงินโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจได้รับอันตรายโดยคาดไม่ถึง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image