จนท.บุกจับรุกป่าเขาพนมเบญจา230ไร่ ปลูกปาล์มเต็มพื้นที่ ศปก.พป.สั่งลงบันทึกประจำวันห้ามทำประโยชน์

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำโดยนายรัชชัย พรพา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปรามฯ ในฐานะหัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4(ภาคใต้) กรมป่าไม้ นำโดยนายศุภชัย สุดใส ผู้อำนวยการส่วนป้องกันฯ นายจิรายุ เพชรรัตน์ หัวหน้าหน่วยป้องกันฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายที่มีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาพนมเบญจา บริเวณบ้านห้วยเหรียง หมู่ 7 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ สภาพพื้นที่เป็นเขาสูง เมื่อไปถึงพบสวนปาล์มขนาดใหญ่ อายุระหว่าง 8-10 ปี ปลูกเต็มพื้นทีและมีร่องรอยการเข้ามาตกแต่งต้นปาล์ม นอกจากนั้น ยังพบต้นกระถินเทพายืนต้นตายและถูกโค่นล้มจำนวนมาก นายรัชชัย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่งอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ขึ้นบินสำรวจพื้นที่ ก่อนนำมาแปลภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อวัดพิกัดพบมีพื้นที่ป่าสงวนฯ ถูกบุกรุกเพื่อปลูกสวนปาล์ม จำนวน 230 ไร่

นายรัชชัย กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการบุกรุกอย่างหนัก ใช้เลื่อยโซ่ยนต์ตัดต้นไม้และเคยมีการจับกุม เมื่อประมาณปี 2547 จากนั้น มีการจัดทำโครงการปลูกป่าประชาอาสา ด้วยการปลูกต้นกระถินเทพา ซึ่งเป็นไม้โตเร็ว ในป่าสงวนฯ ที่ถูกบุกรุก แต่ปรากฎว่าหลังการปลูกป่ากลับมีการบุกรุกซ้ำเพื่อปลูกปาล์ม เรียกว่าปลูกป่าไปถูกบุกรุกไป ดังนั้น ศปก.พป.จะทำการตรวจยึดเพื่อห้ามเข้าไปทำประโยชน์และทำบันทึกตรวจสอบและจะเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เหนือคลอง จากนั้น จะมอบให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่เข้ามาใช้ประโยชน์ในป่าสงวนฯเขาพนมเบญจา เพื่อให้นำเอกสารหลักฐานการครอบครองมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน ถ้าไม่มีจะถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุก

Advertisement

ขณะที่นายสมเนตร ดวงขวัญ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ที่ขึ้นมาร่วมตรวจสอบด้วย กล่าวว่า ชาวบ้านเข้ามาปลูกปาล์ม ประมาณปี 2548 มีประมาณ 10 กว่ารายเข้ามาจับจองและแบ่งพื้นที่ปลูกปาล์มกันเอง ทั้งนี้จะไปแจ้งให้ชาวบ้านที่ปลูกปาล์มในป่าสงวนฯได้ทราบเพื่อนำเอกสารหลักฐานไปแสดงต่อไป

Advertisement

ต่อมาช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่จากศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4(ภาคใต้) ได้เดินทางมาที่ สภ.เหนือคลองเพื่อลงบันทึกประจำวัน

วันเดียวกัน นายรัชชัย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้าปักป้ายแสดงว่าเป็นพื้นที่ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกป่าชายเลนในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองจิหลาด และห้ามเข้าทำประโยชน์โดยจะมีการรื้อทลายคันดินเพื่อปลูกฟื้นฟูป่าที่บ้านไสไทย หมู่ 4 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ เนื้อที่ 35 ไร่เศษ และที่บ้านอ่าวน้ำเมา หมู่ 5 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ พื้นที่ 52 ไร่ ซึ่งทั้ง 2 แห่งมีการบุกรุกทำนากุ้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image