หอยเม่น ไม่ใช่สัตว์คุ้มครองก็จริง แต่แอบจับในเขตคุ้มครอง โทษปรับ 5 หมื่น

วันที่ 21 พฤษภาคม นายธเนศ มั่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 (ชลบุรี) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ลงพื้นที่เกาะล้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอนักท่องเที่ยวชาวต่างจับหอยเม่นมารับประทาน จากการสอบถามเบื้องต้นไปทางผู้ประกอบการร่มเตียงได้พบเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลงไปเก็บหอยเม่นตามแหล่งน้ำตื้น และได้นำมารับประทานโดยไม่ผ่านการปรุงให้สุกตามที่เป็นข่าวจริง รวมถึงได้มีการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยวไม่ให้มีการกระทำในลักษณะตามที่เป็นข่าวดังกล่าว และขอให้ระวังถึงพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดิบอันมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษและโรคพยาธิต่างๆ ตามมา ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่อีกด้วย

นายธเนศ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าหอยเม่นไม่ได้เป็นสัตว์คุ้มครองที่สามารถจับนำมารับประทานได้ เว้นเสียแต่หากจับจากพื้นที่ที่กำหนดไว้เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ หรือเขตคุ้มครองสัตว์น้ำทางทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายตาม พ.ร.ก. การประมง 2558 มีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท

นายธเนศ กล่าวว่า สำหรับหอยเม่น (sea urchin) เป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังอยู่ในวงศ์เดียวกับพวก ปลิงทะเล ปลาดาว โดยหอยเม่นจะพบอยู่ทั่วไปในแนวปะการัง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศตามแนวปะการัง กล่าวคือเป็นสัตว์ที่หากินโดยการครูดไถสาหร่ายตะไคร่ที่ขึ้นบนซากปะการังเป็นอาหาร จึงเป็นการลดปริมาณสาหร่ายตะไคร่ไม่ให้มีมากเกินไป เป็นการเปิดพื้นที่ว่างบนผิวซากปะการังให้ตัวอ่อนปะการังได้ลงยึดเกาะเพื่อเจริญเติบโต และเกิดการฟื้นตัวของแนวปะการังขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่ในกรณีที่แนวปะการังมีปริมาณหอยเม่นมากเกินไปจนเกินสมดุลธรรมชาติ ซากปะการังจะสึกกร่อนกลายเป็นผงทราย ทำให้แนวปะการังนั้นขาดพื้นแข็งสำหรับการลงยึดเกาะของตัวอ่อนปะการัง การฟื้นตัวของแนวปะการังจะเกิดขึ้นได้ยาก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image