เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง ว่าได้มอบนโยบายให้สำนักการจราจรฯ 1.พิจารณาทบทวนโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีเทา (วัชรพล-พระโขนง-สะพานพระราม 9-ท่าพระ) อีกครั้ง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน เพราะปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวมีประชากรเพิ่มขึ้น หากมีรถไฟฟ้าสายสีเทาจะช่วยระบายคนเข้าพื้นที่เขตเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.การขยายเส้นทางเดินเรือคลองภาษีเจริญจากท่าเรือประตูน้ำภาษีเจริญ เพื่อเชื่อมต่อไปยังท่าเรือวัดกำแพงบางจาก ให้ดำเนินการทันทีเพื่อให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน ส่วนการขยายเส้นทางจากท่าเรือประตูน้ำภาษีเจริญออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชื่อมต่อท่าเรือด่วนราชินีนั้น ให้ศึกษาเพิ่มเติม 3.เร่งรัดการดำเนินโครงการ “สคูลโซน…เซฟตี้โซน” ด้วยการจัดเทศกิจหน้าโรงเรียน เพื่อดูแลความปลอดภัยและปรับปรุงลักษณะกายภาพบริเวณหน้าโรงเรียน อาทิ ป้ายจราจรและทางม้าลาย เนื่องจากเป็นงบประมาณต่อเนื่อง จึงได้กำชับให้สำนักการจราจรฯ ดำเนินโครงการให้ครบทุกโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีกว่า 1,000 แห่ง 4.ให้ดำเนินการขีดสีตีเส้นการจราจรที่เลือนรางบนพื้นผิวจราจรให้เด่นชัดทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ 5.ให้หาแนวทางปรับปรุงป้ายแท็กซี่อัจฉริยะ โดยจะปรับปรุงให้เป็นจุดพักคนเดิน และ 6.ปรับปรุงไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณป้ายรถประจำทางโดยสารทั้งหมด
“สาเหตุเดิมที่ต้องชะลอโครงการสายสีเทา เพราะผู้อาศัยช่วงอโศกและทองหล่อไม่ยินยอมให้ก่อสร้าง และไม่ผ่านกระบวนการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) รวมถึงต้องขออนุญาตใช้พื้นที่บริเวณสี่แยกเกษตรนวมินทร์ตัดถนนประดิษฐ์มนูธรรมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แต่ครั้งนี้อยากให้สำนักการจราจรฯ ศึกษารายละเอียดและนำเสนอคณะผู้บริหาร กทม.อีกครั้ง เพราะไม่อยากให้เสียโอกาสในการเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ สำหรับเส้นทางการเดินรถสายสีเทา แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 วัชรพล-ทองหล่อ ระยะที่ 2 พระโขนง-พระราม 3 และระยะที่ 3 พระราม 3-ท่าพระ แต่เบื้องต้นให้จะศึกษาระยะที่ 1 ก่อน” นายสกลธีกล่าว
