ขบวนพลังบุญยิ่งใหญ่ ไทย-อินเดีย อัญเชิญ ’พระพุทธรูปปางปรินิพพาน‘ ถึง ’มกุฏพันธนเจดีย์‘ น้อมรำลึกพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย ในพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปปางปรินิพพาน ในงานสมโภชและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ประจำปี 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระเจ้าอยู่หัว และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงพระกรุณาโปรดฯ รับ สถานพยาบาลกุสินาราคลินิก อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์
สำหรับผู้เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ มีบุคคลสำคัญเข้าร่วมพิธี ประกอบด้วย เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร, พระเดชพระคุณพระธรรมโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศ อินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา, พระวิเทศวชิรญาณ วิ. เจ้าอาวาสวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์
พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ, พันตำรวจเอก ยศเอก รักษาสุวรรณ รองผู้บังคับการอำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และนางภูริตา ผิวงาม ภรรยา, นายธีรภัทร มงคลนาวิน อุปทูต รักษาราชการแทนเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี, นายณรงค์ฤทธิ์ เอี่ยมเจริญยิ่ง ประธานมูลนิธิวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์, นายพงศ์ฤทธิ์ ศรีสมิท – พญ.เรณู ศรีสมิท ประธานจัดงาน, ดร.รัตนา ศิริจิตร, นางอารีมา แซ่ตั้ง, พราหมณ์ ดร.อังกูร วงศ์เสรีสุข, นางสาวสมปรารถนา นาวงษ์ เจ้าของเพจอีจัน, คณะพลังบุญ และเจ้าหน้ากรมการศาสนา เป็นต้น
บรรยากาศเวลา 07.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศอินเดีย ประชาชนทั้งชาวไทยและอินเดีย เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยตั้งขบวนอัญเชิญพระพุทธรูปปางปรินิพพาน และเครื่องราชสักการะ เพื่อเดินทางไปยังมกุฏพันธนเจดีย์
จากนั้นเวลา 07.50 น. เข้าสู่ช่วงพิธีเชิญผู้อัญเชิญเครื่องราชสักการะเข้าสู่ริ้วขบวน พร้อมเคลื่อนขบวนจากสาลวโนทยานไปยังมกุฏพันธนเจดีย์
โดยริ้วขบวนประกอบด้วย ราชรถพระพุทธรูปปางปรินิพพาน ขบวนพระบรมสารีริกธาตุ ราชรถพระพุทธรูปประจำพระชนมวารในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ราชรถพระบรมมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 ราชรถพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10 ขบวนพระมหาเถรานุเถระ และพระภิกษุสงฆ์
ต่อด้วยขบวนแขกผู้มีเกียรตินั่งบนเสลี่ยง พร้อมทั้งคณะนางรำชาวไทยและขบวนนางรำชาวอินเดีย รวมถึงช้าง 2 เชือก และเครื่องเสียง
เวลา 09.35 น. ริ้วขบวนถึงมกุฏพันธนเจดีย์ มีการแสดงจาก ระบำดาวดึงส์ จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ศาสนพิธีกรเชิญผู้อัญเชิญเครื่องราชสักการะ และแขกผู้มีเกียรติเข้าสู่มกุฏพันธนเจดีย์ จากนั้นแขกผู้มีเกียรติเข้านั่งประจำที่เตรียมความพร้อม และประชาชนผู้มาร่วมงานเข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อทำการเข้าสู่พิธีการต่อไป
จากนั้น เวลา 10.09 น. เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ประธานใสพิธี จุดเทียนสัตบรรณ และกล่าวนำถวายเครื่องราชสักการะ และสวดมนต์บูชามกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมสวดสรรญเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และนำเจริญจิตภาวนา
ศาสนพิธีกรเชิญแขกผู้มีเกียรติ ที่อัญเชิญเครื่องสักการะ เข้าวางเครื่องสักการะ
ต่อมา เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ พร้อมด้วยพระมหาเถรานุเถระ ถวายน้ำสรงพระราชทาน เถราภิเษกพระพุทธบาท ณ มกุฎพันธนเจดีย์ สถานที่ปรินิพพาน
จากนั้นมีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ศาสนพิธีกรเชิญแขกผู้มีเกียรติถวายน้ำสรง โดยในระหว่างถวายน้ำเถราภิเษก พระพิธีธรรมสวดอภิธรรมทำนองหลวง และพุทธศาสนิกชนทั่วไปเข้ากราบสักการะตามอัธยาศัย เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี
สำหรับ “มกุฎพันธนเจดีย์” เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า จึงเริ่มต้นของพระบรมสารีริกธาตุ โดยพุทธศาสนิกชน นิยมมาสักการะบูชาเมื่อเดินทางมาถึงเมืองกุสินารา
ซึ่งพิธีที่เกิดขึ้นอันเป็นมงคลนี้เป็นการแสดงออกถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และเป็นโอกาสสำคัญในการสืบทอดประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ ตลอดจนเป็นการถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ สังเวชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
ทั้งนี้ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ จัดพิธีงานสมโภชและนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ประจำปี 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และน้อมสำนึกในพรมหากรุณาธิคุณทรงพระกรุณาโปรดฯ รับ สถานพยาบาลกุสินาราคลินิก อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในวันที่ 23 – 24 กุมภาพันธ์นี้