กกต.’สมชัย’โวจะให้คนมาใช้สิทธิมากขึ้น-ไม่หวั่นกลุ่มเคลื่อนไหวส่งผลประชามติ เชื่อฝ่ายกฎหมายแจงศาลปกครองปมขัดรธน.ได้

กกต.จับมือ กทม.จัดรถเคลื่อนที่ทำบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดให้ผู้สูงอายุบ้านบางแค “สมชัย”โวจะทำให้คนออกมาใช้สิทธิมากขึ้น ไม่หวั่นกลุ่มเคลื่อนไหวเป็นอุปสรรคต่อการทำประชามติ เชื่อฝ่ายกฎหมายแจงศาลปกครองปมขัดรัฐธรรมนูญได้

วันที่ 9 กรกฎาคม ที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการผู้สูงอายุบ้านบางแค นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจเยี่ยมการนำรถเคลื่อนที่มาบริการจัดทำบัตรประชาชนอเนกประสงค์ให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเป็นผู้สูงอายุและคนพิการหรือทุพพลภาพที่บ้านบางแค ที่มีการลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธินอกเขตการออกเสียงไว้ก่อนหน้านี้จำนวน 160 คน ซึ่ง กกต.จัดเป็นหน่วยเลือกตั้งพิเศษบ้านบางแค 1 และ 2

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะทำเครื่องอ่านบัตรประจำตัวประชาชนมาใช้ในการตรวจสอบสิทธิออกเสียง ซึ่งเป็นการลดขั้นตอนให้รวดเร็วขึ้น เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการหรือทุพพลภาพที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจึงร่วมมือกับ กทม.จัดรถโมบายเคลื่อนที่มาให้บริการเพื่อให้ผู้มีสิทธิได้ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้

Advertisement

นายสมชัยยังกล่าวว่า คงคาดการณ์จำนวนผู้มาใช้สิทธิลำบาก แต่หากดูจำนวนผู้ที่มาขอใช้สิทธิออกเสียงประชามตินอกเขตจังหวัดจนถึงเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้าย มีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมประมาณ 34% ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าประชาชนตื่นตัวที่จะรักษาสิทธิของตนเอง จะส่งผลให้คนออกมาใช้สิทธิอย่างเต็มที่ ส่วนวันออกเสียงจริงในวันที่ 7 ส.ค. ขอร้องประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิจำนวนมากๆ เพราะทุกเสียงมีความหมายในการตัดสินอนาคตประเทศไทย

สำหรับทิศทางการปกครองประเทศ รวมทั้งการบริหารบ้านเมืองในอนาคต ถือเป็นกติกาสำคัญของบ้านเมือง การจะรับหรือไม่รับ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ เป็นสิทธิของประชาชน กกต.มีบทบาทเพียงการจัดการให้เกิดผลสำเร็จ อยากเชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้เสียงกันให้มากๆ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 80% ขึ้นไป

ส่วนอุปสรรคที่ กกต.เป็นห่วงขณะนี้ นายสมชัยระบุว่า ยอมรับการออกเสียงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะเข้าใจ เพราะถือว่าเป็นประเด็นใหญ่มีรายละเอียด และสาระในบทบัญญัติจำนวนมาก ขอให้ดูในเรื่องแก่นสาร ส่วนอุปสรรคในขณะนี้ กกต.มองว่าประชาชนยังไม่มีความเข้าใจ อยากให้มีบรรยากาศการถกเถียงให้มากขึ้น แต่ทั้งหมดจะต้องเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเท็จ หยาบคาย ก้าวร้าว รุนแรง และใช้เป็นเวทีในการปลุกระดม จะเกิดความวุ่นวายทางการเมือง

Advertisement

อย่างไรก็ตาม นายสมชัยกล่าวถึงความพร้อมในการชี้แจงต่อศาลปกครองในวันจันทร์ที่ 11 ก.ค.นี้ หลังจากที่ภาคประชาชนได้ยื่นฟ้องกรณีเรื่องของหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นการออกเสียงประชามติ 2559 ขัดต่อหลักประชาธิปไตย ว่า เรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายจะเป็นผู้ดูแล มั่นใจว่าจะสามารถตอบคำถามในทุกๆ เรื่องได้

กกต. สมชัย ผู้สูงอายุ

ส่วนแนวทางที่จะไปชี้แจงต่อศาลไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะจะเป็นการไต่สวนเบื้องต้นเพื่อพิจารณาว่า คำร้องดังกล่าวอยู่ในขอบเขตของอำนาจศาลปกครองที่จะพิจารณารับฟ้องหรือไม่ การไต่สวนจะยังไม่ลงไปถึงเนื้อหาสาระของประเด็นคำฟ้อง แต่จะพิจารณาว่าประกาศของ กกต.เทียบเท่าคำสั่งทางปกครองหรือไม่ และอยู่ในขอบเขตคดีทางการปกครองหรือไม่ ซึ่งถ้าอยู่ในขอบเขตคดีทางการปกครองศาลก็รับฟ้องเพื่อดำเนินการไต่สวนต่อไป

โดย กกต.พร้อมน้อมรับทุกทาง ถ้าจะรีบฟ้องเราก็ยินดี ถ้าไม่รับฟ้องก็จบกันไป และหากตัดสินว่าประกาศของ กกต.มีความผิดก็ยินดีปรับปรุงแก้ไข แต่ถ้าประกาศนั้นชอบด้วยกฎหมาย กกต.ก็เดินหน้าทำงานต่อไป ยืนยันว่าทุกขั้นตอน กกต.ทำตามกฎหมายและไม่คิดว่าความคลุมเครือดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคในการทำงาน เพราะเรายึดหลักการในการออกเสียงอย่างเสรี แสดงความเห็นได้โดยไม่มีข้อจำกัด ยกเว้น 3 เรื่อง คือ อย่าเป็นเท็จ อย่าหยาบคาย และอย่าปลุกระดม

ถ้าทุกฝ่ายยึดมั่นในกติกาดังกล่าวก็เดินหน้าต่อไปได้ แม้แต่การแจกจ่ายเอกสารของกลุ่มนักศึกษาก็สามารถจัดได้ แต่ต้องคำนึงว่าเอกสารที่แจกนั้นไม่ผิดหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้

แต่ถ้าคิดว่าเอกสารที่มีนั้นสุ่มเสี่ยงก็ให้ยุติไว้ก่อนจนกว่าจะมีการพิสูจน์ว่าไม่ผิด ไม่ใช่ว่าแจกไปแล้วเมื่อพิสูจน์ภายหลังว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเท็จ ถือว่าการกระทำดังกล่าวเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ ถือว่าการทำผิดนั้นสำเร็จแล้วก็จะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทันที ส่วนจะใช้เวลาในการพิสูจน์แค่ไหน คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในฐานะที่เป็นฝ่ายร่างกำลังพิสูจน์อยู่ คิดว่าไม่นานคงมีคำตอบ ส่วนการพิสูจน์ว่าใครอยู่เบื้องหลังเป็นขั้นตอนกระบวนการพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรม

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image