ขาใหญ่รุมทึ้ง ‘บัดเจตโฮเต็ล’ รับท่องเที่ยวเอเชีย-จีนพุ่ง (คลิป)

มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 11 ก.ค.2559

จากการขยายตัวของภาคท่องเที่ยวของไทยและโครงสร้างนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เปลี่ยนจากนักท่องเที่ยวโซนยุโรปมาเป็นนักท่องเที่ยวโซนเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ทำให้กลุ่มทุนโรงแรมและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนสร้างโรงแรมราคาประหยัด หรือบัดเจตโฮเต็ลมากขึ้น เนื่องจากใช้งบลงทุนต่อห้องต่ำกว่าโรงแรมระดับ 4-5 ดาวกว่าเท่าตัว สามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาเพียง 6 ปี ขณะที่โรงแรมระดับ 4-5 ดาวจะใช้เวลาคืนทุนนาน 8-10 ปี

โดยกลุ่มแอคคอร์ที่เป็นค่ายแรกๆ ที่เปิดบัดเจตโฮเต็ล โดยใช้แบรนด์ไอบิสและฮอลิเดย์อินน์ ราคาที่พัก คืนละ 1,200-2,500 บาท

Advertisement

กลุ่ม ดิ เอราวัณ กรุ๊ป มีแบรนด์ ฮ็อปอินน์ กำหนดราคาที่พักคืนละ 750-1,000 บาท เปิดไปแล้วกว่า 20 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ เช่น หนองคาย, มุกดาหาร, สระแก้ว, กาญจนบุรี โดยตั้งเป้าเปิดทั้งหมด 50 แห่ง ภายในปี 2563

กลุ่มแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ส่งแบรนด์ “ม็อกซี่” ระดับกลาง และ “แฟร์ฟิลด์ อินน์ แอนด์ สวีทส์” ราคาคืนละ 2,100-2,800 บาท

กลุ่มเซ็นทาราก็ได้เริ่มส่งแบรนด์ “โคซี่” ไปเปิดตามหัวเมืองหลักๆ ราคาคืนละ 1,000-1,250 บาท

Advertisement

กลุ่มจาวลา เชียงใหม่ กรุ๊ป เปิดโรงแรม B2 มีสาขาอยู่ทั่วประเทศไทย 24 แห่ง ราคาคืนละ 500-700 บาท

กลุ่ม ซี.พี.แลนด์ที่ได้เปิดโรงแรมระดับ 3 ดาว ราคา คืนละ 750 บาท ภายใต้แบรนด์ Fortune D แล้ว 3 แห่ง คือ ฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม, ฟอร์จูน วิวโขง นครพนม และฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ เชียงราย โดยในเดือนสิงหาคมนี้จะเปิดที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จากนั้นจะเปิดอีก 3 แห่ง ภายในปี 2560 ที่เลย และบุรีรัมย์ ส่วนที่เขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จะเปิดแบรนด์ Fortune D Plus ราคาคืนละ 1,200-1,400 บาท

ล่าสุดบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ในธุรกิจพลังงานก็ให้ความสนใจลงทุนในธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดในพื้นที่ปั๊มน้ำมันในเครือข่าย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหาพันธมิตร ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ 50 แห่งภายใน 5 ปีนี้ ราคาที่พักคืนละ 500-600 บาท

จากรายงานของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า นักท่องเที่ยวจีนขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2557 มีนักท่องเที่ยวจีน 4 ล้าน 6 แสนคน คิดเป็น 18% ปี 2558 มีจำนวน 7ล้าน 9 แสนคน คิดเป็น 26.55% และในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-พฤษภาคม) มีจำนวน 4 ล้าน 1 แสนคน คิดเป็น 29.55% และคาดว่าทั้งปีจะมีจำนวนมากถึง 10 ล้านคน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image