วิจารณ์ มาตรการ ลดหย่อนภาษีสินค้าโอท็อปไม่ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน(คลิป)

มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 14 ก.ค.2559

จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่มีมติเห็นชอบ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมสินค้าโอท็อป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการใช้จ่ายของประชาชนในการซื้อผลิตภัณฑ์โอท็อป และสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการซื้อสินค้าตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งรัฐบาลคาดว่า จะกระตุ้นยอดขายโอท็อปในช่วงเดือนสิงหาคมได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

พันเอก นาฬิกอติภัค(นา-ริก-อะ-ติ-พัด) แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าว ไม่สามารถสร้างรายได้สู่ชุมชนฐานรากอย่างแท้จริง เพราะร้านค้าชุมชนจำนวนมาก ไม่สามารถออกใบกำกับภาษีได้ แต่รายได้ที่เกิดกับชุมชนจะเป็นทางอ้อม ด้วยการขายสินค้าได้ผ่านพ่อค้าคนกลาง ที่นำไปขายตามห้างสรรพสินค้า สนามบิน ร้านค้าชื่อดังมากกว่า เพราะสินค้าที่จะขายในสถานที่ดังกล่าวได้ จะต้องผ่านมาตรฐานจากหน่วยงานที่ตรวจสอบก่อน เพราะต้องอย่าลืมว่า ยังมีสินค้าโอท็อปอีกเป็นจำนวนมากที่เกิดจากภูมิปัญหาท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวสนใจซื้อ แต่ยังไม่สามารถนำไปจำหน่ายบนห้างสรรพสินค้าได้

สำหรับข้อเสนอคือ รัฐบาลต้องเพิ่มช่องทางการกระจายรายได้จากมาตรการดังกล่าว เพื่อให้เม็ดเงินเข้าถึงชุมชนอย่างแท้จริง เพราะสินค้าโอท็อปที่จะใช้ลดหย่อนภาษีได้นั้น ก็ต้องมาจากบริษัทที่จดทะเบียน แต่ยังมีผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนอีกมากที่ผลิตกันเอง ไม่ได้ตั้งเป็นรูปบริษัท จึงทำให้ไม่ได้รับอานิสงส์จากเรื่องนี้มากนัก นอกจากนี้ ยังเห็นว่าระยะเวลาการลดหย่อนภาษี สั้นไป ควรสนับสนุนมาตรการนี้ไปจนถึงสิ้นปี เพื่อขยายโอกาสสร้างรายได้ ช่วยให้เงินในชุมชนหมุนเวียนมากขึ้นในช่วงเศรษฐกิจยังซบเซา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image