มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 18 ก.ค.2599
ในช่วง 5 ปีนี้ พบว่า สถานีบริการน้ำมันหรือปั๊มน้ำมัน พีที เติบโตแบบก้าวกระโดด จากผู้ค้าน้ำมันอันดับ 4 ขึ้นมาเป็นผู้ค้าน้ำมันอันดับ 2 ปัจจุบันมีปั๊มน้ำมัน 1,220 แห่ง ขณะที่ ปตท. มีปั๊ม 1,588 แห่ง รวมทั้ง “พีที”ยังเปิดปั๊มก๊าซอีก 30 แห่ง ซึ่งให้บริการมาตั้งแต่ต้นปี
คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้วางเป้าหมายที่จะขยายปั๊มพีทีให้ครบ 4,000 แห่งภายในปี 2562 จาก โดยใช้วิธีการ “เช่าที่ดิน”จากปั๊มน้ำมันที่หมดสัญญาแล้วไม่ทำต่อ
ทำให้เจาะเข้าไปถึงปั๊มน้ำมันรายอำเภอบนถนนสายรองลงมาทั่วประเทศ โดยบริษัทใช้เงินลงทุนในการปรับปรุงปั๊มน้ำมันเพียงแห่งละประมาณ 3 ล้านบาทเท่านั้น แต่หาก จะทำปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่จะต้องลงทุนถึง 80 ล้านบาทต่อแห่ง โดยใช้ใช้เวลาปรับปรุงปั๊มเพียง 45 วัน โดยปีนี้ จะขยายปั๊มให้ได้ประมาณ 1,500 แห่ง และในปี 2561 เพิ่มเป็น 2,000 แห่ง ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,200 ล้านบาท
โดยปั๊มบีพีมีจุดแข็ง ได้แก่ 1. บริหารปั๊มน้ำมันเอง ทำให้ได้รับ “ค่าการตลาด” เต็มอัตรา ประมาณ 1.50-1.70 บาท/ลิตร ขณะที่คู่แข่งจะต้องแบ่งค่าการตลาดให้กับดีลเลอร์
2. มีกองรถบรรทุกน้ำมันเป็นของตัวเอง ทำให้มีต้นทุนขนส่งถูก
3. มีคลังน้ำมันตั้งกระจายกันอยู่ทั่วประเทศ เช่น ภาคเหนือมีที่ จังหวัดลำปาง-พิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่น-ปักธงชัย นครราชสีมา
ปั๊มพีทีมีกลยุทธ์สำคัญจูงใจลูกค้าเข้ามาใช้บริการด้วยบัตรสมาชิกแมกซ์การ์ด ตอนนี้มีสมาชิกแล้ว 4 ล้าน 6 แสนราย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 5 ล้าน 6 แสนราย และในปี 2561 จะมีสมาชิกเพิ่มเป็น 9 ล้าน 2 แสนราย โดยเมื่อใช้บัตรแมกซ์การ์ดเติมน้ำมันทุก 1 ลิตรจะได้แต้มสะสม 1 แต้ม
และในปั๊มพีทีมีร้านสะดวกซื้อ “แมกซ์มาร์ท ” แล้ว 50 แห่ง ทำยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และจะขยายเพิ่มเป็น 80 สาขาภายในปีนี้ ในปี 2560 จะเพิ่มเป็น 200 แห่ง รวมทั้งมีร้านกาแฟแบรนด์ “พันธุ์ไทย” เปิดแล้ว 30 สาขา คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 70 แห่ง และเพิ่มเป็น 200 แห่งในปี 2560
นายพิทักษ์ มั่นใจว่า แม้ตอนนี้ปั๊มบีพีมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ในอันดับที่ 5 แต่เป็นเบอร์ 2 ในจำนวนปั๊มน้ำมัน และภายในปี 2562 จะแซงขึ้นเป็นเบอร์ 1
ขณะที่ ธุรกิจน้ำมันระยะ 5 ปี (ปี 2559-2563) ของ ปตท. เตรียมเงินลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ไว้ใช้ขยายและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน 8,000 ล้านบาท ธุรกิจค้าปลีก 2,000 ล้านบาท ธุรกิจก๊าซหุงต้ม (LPG) 2,500 ล้านบาท ที่เหลือ 7,500 ล้านบาท ใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ลงทุนคลังน้ำมันและระบบท่อต่างๆ
โดยในปีนี้ ปตท. จะขยายสาขาร้านค้าในปั๊ม ปตท. ตามแนวตะเข็บจังหวัดชายแดนติดกับเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าในปั๊มมากขึ้น
