หะยีสุหลง หรือ หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ โต๊ะมีนา นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของชาวมลายูมุสลิมในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทย เขามีบทบาทโดดเด่นขึ้นมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเป็นตัวแทนนำเสนอข้อเรียกร้อง 7 ข้อ ที่ให้ความเป็นธรรมและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวมุสลิมในพื้นที่ต่อรัฐบาลไทยที่มีพลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2490
แต่ต่อมาในปีเดียวเกิดการรัฐประหาร 2490 ท่าทีของรัฐบาลใหม่ที่นำโดยควง อภัยวงศ์ ต่อปัญหาชายแดนภาคใต้ก็เปลี่ยนไป เมื่อมีนโยบายที่จะกำจัด “ตัวการที่คิดจะแบ่งแยกดินแดน” นำมาสู่การจับกุมหะยีสุหลงด้วยข้อหา “ตระเตรียมและสมคบกันคิดการจะเปลี่ยนแปลงราชประเพณีการปกครอง และเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไปและเพื่อให้เกิดเหตุร้ายแก่ประเทศจากภายนอก” ถูกพิพากษาให้รับโทษจำคุก 4 ปี 8 เดือน ที่เรือนจำบางขวาง ในข้อหาดูหมิ่นรัฐบาล แต่ยกฟ้องข้อหาแบ่งแยกดินแดน
หะยีสุหลง ได้รับอิสรภาพอีกครั้งในวันที่ 15 มิ.ย. 2495 แต่ถัดจากนั้นอีก 2 ปี ในวันที่ 13 ส.ค. 2497 หะยีสุหลง และลูกชายคนโต ออกจากบ้านพักใน จ.ปัตตานี ก่อนที่จะหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย นำมาสู่การตามหาความจริงโดยครอบครัวของหะยีสุหลง และในปีพ.ศ.2500 โดยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสะสางคดีนี้ ซึ่งจากการสอบสวน คณะกรรมการชุดนี้บอกว่า หะยีสุหลงกับพวก 2 คน และลูกชายถูกฆ่าตายในวันนั้น และนำศพไปทิ้งทะเลสาบสงขลา