มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 2 ส.ค.2559
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท. กล่าวว่า การส่งออกไทยปีนี้ยังน่าเป็นห่วง เพราะการส่งออกสินค้าเกษตร ทั้งราคาข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ยังทรงตัวระดับต่ำตามราคาน้ำมัน ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมอยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดี มีเพียงการส่งออกทองคำไม่ขึ้นรูป ซึ่งไม่ใช่สินค้าอุตสาหกรรมโดยตรง ที่เป็นตัวดึงตัวเลขส่งออกให้เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดงานภาคการผลิต แม้จะมีแนวโน้มจะส่งออกมากขึ้น ตามราคาทองคำตลาดโลก ที่ราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากความผันผวนของตลาดหลังเบร็กซิท
ส่วนการส่งออกรถยนต์ แม้ที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ดี แต่ต้องติดตามในช่วงหลังเดือนกรกฎาคม ที่การส่งออกรถยนต์ไปตลาดหลักอย่างตะวันออกกลางอาจลดลง เนื่องจากกำลังซื้อลดและมีสต๊อกรถยนต์มากแล้ว นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง และภัยก่อการร้ายที่รุนแรงขึ้น ทำให้คาดการณ์การส่งออกทั้งปีนี้ มีมูลค่า 210,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือติดลบ 2% หลังจากการส่งออกครึ่งปีแรก มีมูลค่า 105,137 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 1.6% แต่หากหักส่งออกทองคำ จะติดลบถึง 4.99% ดังนั้น การส่งออกจะต้องไม่เพียงดูตัวเลข แต่ต้องดูการส่งออกที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลมีการผลักดันการส่งออกในเชิงรุก การส่งออกปีนี้อาจจะติดลบน้อยกว่า 2% ได้ เช่นอาจใช้โอกาสประเทศคู่แข่งการส่งออกอย่างจีน ถูกหลายประเทศใช้มาตรการขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้การทุ่มตลาด รวมถึงเรื่องความขัดแย้งดินแดนของจีนกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งอาจส่งผลต่อการค้าการลงทุนในภาพรวม เป็นโอกาสนี้ในการเข้าไปรุกตลาดที่มีความสัมพันธ์กับจีนเป็นรายสินค้าได้
นอกจากนี้ ในส่วนของค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้น เนื่องจากเงินทุนต่างประเทศยังไหลเข้ามาในตลาดทุนของไทย หากค่าเงินบาทแข็งค่าถึง 34.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นระดับสูงสุดที่ผู้ส่งออกรับได้ หากแข็งค่ามากกว่านี้ อาจจะเข้าไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยในการเข้ามาดูแลค่าเงินบาท
