ความเคลื่อนไหวการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากการปราศรัยของแกนนำหลายคน ซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาพูดถึงประเด็นข้อเรียกร้องต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นการปฏิรูปสถาบัน และการทำหน้าที่ของรัฐบาลแล้ว
ต่อมาเวลา 02.15 น. เข้าสู่วันที่ 20 กันยายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีการตรึงกำลังที่ถนนราชดำเนินใน บริเวณหน้าศาลฎีกา และฝั่งใกล้พระบรมมหาราชวัง หลังมีบุคคลลักษณะใส่ปลอกแขน คล้ายการ์ดของผู้ชุมนุม นำคีมเหล็กไปตัดรั้วรอบสนามหลวง ฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และหน้าศาลฎีกา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตรึงกำลังเข้มงวดมากขึ้น และมีการสับเปลี่ยนกำลังบริเวณหน้าศาลฎีกา รวมถึงมีการนำรถประจำทางมาต่อกับรถน้ำบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง เพื่อกั้นพื้นที่ 150 เมตร ให้ห่างจากพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นเขตพระราชฐาน ทำให้ผู้ชุมนุมเข้าใจผิดว่าจะมีการสลายการชุมนุม จึงเข้ามาสอบถาม เจ้าหน้าที่จึงชี้แจงว่าเป็นเส้นทางเดินที่เจ้าหน้าที่ใช้สับเปลี่ยนกำลังตามปกติอยู่แล้ว และได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางผู้ชุมนุมเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่รอบนอกบริเวณถนนราชดำเนินตั้งแต่แยกผ่านฟ้าลีลาศ ไปจนถึงลานพระราชวังดุสิต และบริเวณโดยรอบพระราชวังดุสิต รวมถึงโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ได้มีการตั้งแท่นแบริเออร์ และรั้วลวดหนามมากั้นปิดการจราจร และสับเปลี่ยนกำลังชุดใหม่จากกองบัญชาการตำรวจนครบาลจำนวนมาก เพื่อจัดเข้าประจำจุดตามแนวที่มีการกั้นแบริเออร์ ด้วยหลังมีข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะนำหมุดคณะราษฎรไปปักเพื่อแสดงสัญลักษณ์ เรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งมีสถานที่ที่อาจตกเป็นเป้าหมาย คือ บริเวณลานพระราชวังดุสิต หรือ ลานพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นสถานที่ฝังหมุดคณะราษฎรอันแรกที่หายไป รวมถึงข่าวว่าผู้ชุมนุมจะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลด้วย เพื่อรักษาความปลอดภัยของสถานที่สำคัญ
