“อันวาร์ สาและ”จัดหนัก”ประชาธิปัตย”ไม่ยอมถอนตัวจากรัฐบาล เท่ากับเห็นชอบรัฐบาลสลายชุมนุม ขอโทษประชาชนทำหน้าที่เต็มที่แล้ว ไล่”ประยุทธ์”ทบทวนวิธีคิด เข้าไม่ถึงแก่นแท้ประชาธิปไตย หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค และก็ได้มีมติของ พรรคออกมา ซึ่งมีการเผยแพร่กันในสื่อทั่วไป ยืนยันว่ายังจะคงอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีกระแสข่าวว่าในระหว่างที่ประชุมพรรค นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้พรรคถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลด้วย
ล่าสุดจากการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ นายอันวาร์ สาและ ยอมรับว่าได้เสนอให้พรรคถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลเป็นความจริง ด้วยเหตุผลว่าเพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นส่วนหนึ่งที่สําคัญในการ แก้ไขให้บ้านเมืองพ้นวิกฤต จากปัญหาการเมืองที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน ดังนั้นหากพรรคยังคงสถานะการร่วมรัฐบาลไว้ เท่ากับว่าพรรคยอมรับและเห็นดีเห็นชอบกับการกระทําของรัฐบาล โดยเฉพาะล่าสุดจากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าสลายการชุมนุมของเยาวชนเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ภาพถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก เห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีทั้งยุทธวิธีและยุทโธปกรณ์ ที่ดูจะเกินความจําเป็นกับการรับมือผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่มีเพียงมือเปล่าและร่มที่นํามาใช้กันฝน และอุดมการณ์ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ไปในทางที่ดีขึ้นเท่านั้น
ทั้งได้สังเกตว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่กระตือรือร้นที่จะตอบสนองกับปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้เลย ดูได้จากการแก้รัฐธรรมนูญที่เสนอเอง แต่สุดท้ายก็ควํ่าร่างของตนเองเหมือนกับต้องการซื้อเวลาออกไปเรื่อยๆ ตลอดจนการที่ยังไม่หยุดพฤติกรรมคุกคามดังเช่นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่มีการส่งกําลังทหารมายังรัฐสภาและให้งดการประชุมกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องกับการเมืองซึ่งเป็นการแทรกแซงอํานาจนิติบัญญัติ นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ต้องการที่จะเจรจาทําความเข้าใจและตอบสนองข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเลย เราจะหยุดยั้งเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ได้ มีอยู่วิธีเดียวคือพรรคประชาธิปัตย์ต้องถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล แต่ผู้บริหารในพรรคไม่เห็นด้วยและยืนยันว่าการร่วมรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ทําให้ภาพพจน์ของพรรคดีขึ้น เพราะรัฐมนตรีทุกคนทํางานหนักและพรรคมีทีมงานที่คอยตรวจสอบกระแสความนิยมของพรรคอยู่ตลอดเวลา
“ผมเองได้ทําหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถแล้ว เพราะผมไม่อยากให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นซํ้า อย่างในอดีตที่มีการเสียเลือดเนื้อ ผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชน ที่ตัวผมคนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพรรคได้ แต่ผมจะไม่ยอมแพ้ แม้ว่าสุดท้ายอนาคตของผมจะเป็นอย่างไรก็ตาม ผมจะรักษาจุดยืนของผมไว้ จุดยืนที่ว่าผมจะไม่มีวันไม่ทรยศประชาชนอย่างเด็ดขาด” นายอันวาร์กล่าว
ส่วนกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่าฝากให้คนไทยทั้งประเทศช่วยสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหานี้และยัง ตอบคําถามสื่อว่า “ผมไม่ออก ผมทําความผิดอะไรหรือ” นายอันวาร์กล่าวว่า ขอเรียนว่าทุกเรื่องที่ท่านทําและบอกว่าทําถูก คนอื่นอาจจะไม่ได้คิดอย่างท่าน จึงเกิดการชุมนุมต่อต้าน ท่านควรจะต้องกลับไปปรึกษาหารือกับผู้ที่หวังดีต่อท่านว่าเกิดอะไรขึ้น และสิ่งที่ผมคิดว่าท่านผิดคือวิธีคิด ด้วยการที่ท่านไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของประชาธิปไตย ที่มีรากฐานมาจากประชาชนโดยผ่านการเลือกตั้งระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นในต่างประเทศและมีวิธีการพัฒนาระบบด้วยตัวของมันเอง ถูกออกแบบมาให้มีการคานอํานาจซึ่งกันและกัน แต่ในประเทศไทยไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะผู้มีอํานาจไม่ได้เกิดมาจากรากฐานของประชาชน จึงเข้าใจคําว่าประชาธิปไตยแค่ผิวเผินและไม่อาจนําเอาฟังก์ชันต่างๆของประชาธิปไตยมาบริหารประเทศได้อย่างมีศักยภาพเต็มที่
“เปรียบได้กับการที่คนเราเมื่อมีมือถือสมาร์ทโฟนราคาห้าหมื่น ทํางานได้สารพัดแต่ใช้ประโยชน์เพียงห้าพันบาทเท่านั้น คือแค่โทรเข้าโทรออกและเล่นไลน์ ซึ่งต่างจากคนรุ่นใหม่ที่ใช้ประโยชน์ ของมันได้อย่างคุ้มค่า ดังนั้นหากท่านนายกฯยอมรับและทําความเข้าใจคงจะใช้ประโยชน์จากสมาร์ทโฟนได้อย่างเต็มที่”นายอันวาร์กล่าวทิ้งท้าย
