มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 1 ก.ย.2559
นางวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายา อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแบรนด์นารายา, นารา บาย นารายา และลาลามะ บาย นารายา เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ด้วยการออกไปเปิดสาขาทั้งไปกับพาร์ตเนอร์และไปด้วยตัวเอง ล่าสุดได้ทำงานร่วมกับยักษ์ค้าปลีกญี่ปุ่นเพื่อเข้าไปขยายตลาดซีแอลเอ็มวี
โดยห้างสรรพสินค้า “อิเซตัน” จะเป็นตัวแทนเปิดตลาดแบรนด์นารายาในประเทศเวียดนาม ได้ทดลองนำร่องแล้ว 4 สาขา ส่วนศูนย์การค้า “อิออน” จะได้สิทธิ์ในการขยายตลาดนารายาในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี โดยได้เข้าไปเปิดสาขาแรกแล้วในกัมพูชา ส่วนลาวและปีนัง ประเทศมาเลเซีย ได้เข้าเปิดในดิวตี้ฟรี สำหรับเมียนมาก็จะเข้าไปเปิดตลาดเอง
ขณะเดียวกันก็ได้สร้างคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 20 ไร่ย่านแจ้งวัฒนะ เพื่อรองรับการขยายตัวของดีมานด์สินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกระแสของช่องทางออนไลน์ที่ได้รับความนิยม โดยคลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะรองรับสินค้าได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากการผลิตในปัจจุบัน คาดว่าจะพร้อมเปิดใช้งานในอีก 5 เดือนข้างหน้า
นางวาสนา ยอมรับว่า ที่ผ่านมานารายาจะไม่ขายทางออนไลน์ เนื่องจากมองว่าจะทำร้ายเอเย่นต์ แต่ปัจจุบันไม่สามารถต้านทานเทรนด์การขายสินค้าทางออนไลน์ได้
โดยปีนี้บริษัทจะขยายสาขาในไทยเพิ่มอีก 6 สาขารวมเป็น 30 สาขา และปีหน้าอีก 2 สาขา โดยจะขยายไปยังหัวเมืองหลักและเมืองท่องเที่ยว ส่วนต่างประเทศจะเปิด 11-12 สาขา อาทิ ฮ่องกง มาเลเซีย เวียดนาม เป็นต้น
และทำควบคู่กับการพัฒนาสินค้า โดยจะร่วมกับ”ไร่กำนันจุล” ผู้พัฒนาเส้นไหมส่งออกรายใหญ่ของไทย พัฒนาเส้นไหมและลวดลายร่วมกัน เพื่อต่อยอดสินค้าในแบรนด์ลาลามะ บาย นารายา ในการนำผ้าไทย อาทิ ผ้าไหมอีสาน ผ้าไหมมัดหมี่ นำมาพัฒนาเป็นกระเป๋าและเสื้อผ้า เพื่อสร้างความแตกต่างสำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน และนักท่องเที่ยว
