มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 2 ก.ย.2559
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ว่า ได้มอบหมายให้ ตลท. จัดทำแผนแม่บทของ ตลท. ให้การพัฒนาตลาดทุนสอดคล้องกับการเดินหน้าสู่ประเทศไทย 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อุตสาหกรรมไบโอเทค, อุตสาหกรรมดิจิทัล, และกลุ่มนวัตกรรมใหม่ ให้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น
พร้อมกันนี้ยังมอบหมายให้ ตลท.หาแนวทางในการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ เนื่องจากลักษณะของธุรกิจ ไม่เข้าเกณฑ์ทั้งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ จึงอาจต้องมีการแยกตลาดของธุรกิจสตาร์ทอัพขึ้นมาต่างหาก โดยให้ ตลท.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ศึกษากฎเกณฑ์และแนวทางที่เป็นไปได้ต่อไป
เพื่อให้สอดรับกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก จึงอยากให้ ตลท.วางแผนการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น นอกเหนือจาก Thailand Future Fund ของกระทรวงการคลังทีมีขนาดประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมีกองทุนของเอกชนจัดตั้งขึ้นมาเพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่นักลงทุนชาวไทยเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว กัมพูชา จึงอยากให้ ตลท.สร้างเครื่องมือทางการเงินขึ้นมาเพื่อถือหุ้น และให้คนไทยลงทุนผ่านกองทุนเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงของนักลงทุน และทำให้สามารถได้ประโยชน์จากการลงทุนของบริษัทไทยในประเทศเหล่านี้ด้วย