บินโลว์คอสต์แข่งดุ เปิดรูตบินทั้งในประเทศ-ตปท.ชิงลูกค้า (คลิป)

มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 12 ก.ย.2559

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจสายการบินตลอดปีนี้ ยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด โดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคาตั๋ว เดิมตั้งไทยแอร์เอเชียเป้าเพิ่มราคาตั๋วในช่วงไฮซีซั่นเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2-3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่จากสถานการณ์แข่งขันรุนแรงทำให้ไทยแอร์เอเชียต้องขายตั๋วให้เท่ากับปีที่แล้ว

ไทยแอร์เอเชียตั้งเป้าหมายภาพรวมธุรกิจของไทยแอร์เอเชียในปีหน้าไว้เท่ากับปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่มีผลการดำเนินงานได้ค่อนข้างดี โดยตั้งเป้าอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยตลอดปีอยู่ที่ 83% แต่มีแนวโน้มจะสูงกว่าที่ตั้งไว้
ขณะเดียวกันไทยแอร์เอเชียยังคงเดินหน้าเปิดเส้นทางบินใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ อีก 7 เส้นทาง ประกอบด้วย เชียงใหม่-ฉางชา, เชียงใหม่-ขอนแก่น, ขอนแก่น-หาดใหญ่, หาดใหญ่-เชียงราย, หาดใหญ่-ยะโฮร์บาห์รู, กรุงเทพฯ-โกชิ และกรุงเทพฯ-ซัวเถา

Advertisement

ด้านสายการบิน “ไทยเวียดเจ็ท” เตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางในประเทศ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-ภูเก็ต และภูเก็ต-เชียงราย กับอีก 1 เส้นทางระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ-ไฮฟอง (เวียดนาม) เพิ่มเส้นทางบินที่เปิดไปแล้วเมื่อปี่ที่แล้วจากกรุงเทพฯไปฮานอยกับโฮจิมินห์

นอกจากนี้ ยังพิจารณาเปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ-กระบี่ กับ อุดรธานี-หาดใหญ่ หลังจากนั้นจะมุ่งขยายเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างไทยกับเวียดนาม โดยจะผลักดันกรุงเทพฯเป็นฮับบินใหม่ ตั้งเป้าว่าในช่วง 5 ปีแรก มียอดผู้โดยสารเติบโต 250% หรือเริ่มต้นที่ 1 ล้านคน ในปีแรก และเพิ่มเป็น 25 ล้านคน ในปีที่ 5

ด้านสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ หลังขยายเส้นทางบินในประเทศไปจังหวัดหลักๆ ครอบคลุมกว่า 80% ก็ไปโฟกัสตลาดเส้นทางบินระหว่างประเทศมากขึ้นในปีนี้ โดยเตรียมเปิดบินอย่างน้อย 5 เส้นทางใหม่ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ-เดนปาซาร์ (บาหลี)-เพิร์ท (ออสเตรเลีย), กรุงเทพฯ-เวียดนาม ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ว่าเมืองแรกที่จะเปิดเป็น ฮานอยหรือว่าโฮจิมินห์, กรุงเทพฯ-อินเดีย เปิด 1-2 จุดบิน และกรุงเทพฯ-กว่างโจว (จีน)

Advertisement

โดยจะมีเครื่องบินใหม่เพิ่มอีก 7 ลำในปีหน้า ทำให้ไทยไลอ้อนแอร์มีฝูงบินทั้งหมดเป็น 31 ลำ เพิ่มจากสิ้นปีนี้มี 24 ลำ มียอดผู้โดยสาร 9 ล้านคนตามเป้าหมายปีนี้ เติบโต 5 เท่า จาก 1.8 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปีหน้าและเริ่มมีกำไรในปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่เปิดให้บริการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image