มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 13 ก.ย.2559
นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นเดือนกันยายนว่า คาดว่าเป็นผลจากนักลงทุนขายทำกำไร หลังบริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการออกมาดีอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคม ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นถึง 20% ทำให้นักลงทุนขายเพื่อรักษากำไร และถือเงินสดเพื่อรอดูสถานการณ์ในช่วงที่เหลือ ว่าบริษัทจะเติบโตต่อเนื่องหรือไม่ โดยสิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้ คือกระแสเงินทุนต่างประเทศที่จะไหลเข้าออกผันผวน ตราบใดที่ยังมีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่วนปัจจัยภายในประเทศที่กระทบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์นั้นมองว่าเป็นผลกระทบในระยะสั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2559 ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มชนะ 5 ตลาดในภูมิภาค ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ และยังชนะดัชนีเอ็มเอสซีไอต่างๆ เช่น เอ็มเอสซีไอ เวิลด์ MSCI Frontier Markets index เป็นต้น แม้ช่วงต้นเดือนกันยายนจนถึงปัจจุบัน ดัชนีหุ้นไทยจะปรับลงมา 5 ถึง 6% แต่อันดับต่างๆ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยในครึ่งปีแรกเติบโต 6% เมื่อเทียบปีก่อน เป็นอันดับที่ 3 ในภูมิภาครองจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่เติบโต 20% ถือเป็นกลุ่มประเทศที่กำไรบริษัทจดทะเบียนโดดเด่นที่สุดในโลก และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง กำไรบริษัทจดทะเบียนจะดีขึ้นจากผลบวกของการเร่งลงทุนของภาครัฐ, ภาคเอกชนเริ่มมีการลงทุนตาม การบริโภคครัวเรือนเริ่มดีขึ้น และการท่องเที่ยวยังคงดีต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเริ่มเห็นบางอุตสาหกรรมฟื้นตัวชัดเจน เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์
