มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 29 ก.ย.2559
นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานเสวนา ทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนปี 2017 ว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้น่าจะขยายตัวได้เพียง 2.9% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 3.1% และคาดว่าในปีหน้า เศรษฐกิจโลกจะยังเติบโตต่ำกว่า 3% โดยต้องจับตาเศรษฐกิจประเทศหลัก ทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน
ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงกดดันต่อเนื่อง ในส่วนเศรษฐกิจไทย มองว่าโครงการลงทุนเมกะโปรเจ็คของรัฐบาล ยังมีความล่าช้า โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงและความล่าช้าดังกล่าว ส่งผลให้เม็ดเงินที่จะส่งผ่านเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อรวมกับการบริโภคของประชาชนที่ยังไม่ฟื้นตัว น่าจะทำให้จีดีพีในปีนี้ ขยายตัวเพียง 3%
ด้านนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีจะมีความผันผวนสูง และอาจปรับตัวลดลง เข้าสู่ช่วงปรับฐานใหม่อีกครั้ง จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม คาดว่าดัชนีในช่วงที่เหลือของปี จะอยู่ในกรอบ 1,400 ถึง 1,500 จุด หากไม่มีปัจจัยอื่นๆมากกระทบ เช่น การก่อการร้าย การเมืองหรือปัจจัยอื่น ๆ ในประเทศ ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นไทย มีโอกาสหลุด 1,400 จุดได้
ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปีนี้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 780,000 ล้านบาท เติบโตจากในปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 670,000 ล้านบาท และคาดว่าในปีหน้า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน จะเติบโต 10% อยู่ที่ 870,000 ล้านบาท ซึงจะทำให้มีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวสูงกว่าระดับ 1,600 จุด โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใต คือกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
