มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 13 ต.ค.2559
ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวันที่ 12 ตุลาคมว่า เปิดการซื้อขาย ดัชนีร่วงลงแรงและมีการซื้อขายในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงเปิดการซื้อขายช่วงบ่าย ดัชนีดิ่งหัวลงไปทำจุดต่ำสุดของวัน อยู่ที่ 1,343.13 จุด ลดลง 99.08 จุด หรือร้อยละ 6.87 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับมาตรการหยุดการซื้อขายเป็นการชั่วคราว หรือ เซอร์กิต เบรกเกอร์ ที่จะหยุดการซื้อขายทันทีที่ตลาดหุ้นลดลงถึงร้อยละ 10 อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นและมีแรงซื้อขายเข้ามาหนาแน่น โดยปิดตลาด ดัชนีอยู่ที่ 1,406.18จุด ลดลง 36.03จุด หรือร้อยละ 2.50 โดยเป็นดัชนีต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือน มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 130,152.19 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าการซื้อขายที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
สำหรับภาวะหุ้นไทยโดยรวมนั้น พบว่าตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 วันทำการ คือวันที่ 7 ตุลาคม ปิดที่ 1,504.34 จุด ลดลง 9.52 จุด หรือร้อยละ 0.63
วันที่ 10 ตุลาคม ปิดที่ 1,457.02 จุด ลดลง 47.32 จุด หรือร้อยละ 3.15 วันที่ 11 ตุลาคมปิดที่ 1,422.21 จุด ลดลง 14.81 จุด หรือร้อยละ 1.02 และวันที่ 12 ตุลาคม ปิดที่ 1,406.18 จุด ลดลง ร้อยละ 36.03จุด หรือร้อยละ 2.50 รวมในตั้งแต่เปิดสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับลงไปแล้ว 98.16จุด หรือลดลงร้อยละ 6.53 แต่หากเทียบตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทนเป็นบวกที่ร้อยละ 9.17 เพิ่มขึ้นจากต้นปีประมาณ 118.16จุด
นักวิเคราะห์ ระบุว่า หุ้นไทยที่ปรับลงในช่วงนี้มาจากเหตุการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมองกรอบแนวรับทางเทคนิคอยู่ที่ 1,350-1,360 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 จุด และเห็นว่า หุ้นมีโอกาสปรับลงจากนี้ค่อนข้างจำกัด แต่ยังไม่แนะนำให้เข้าซื้อช่วงนี้ โดยกลุ่มที่น่าสนใจคือกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่ในมือแนะนำให้รอดูสถานการณ์ก่อน
