สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นักช็อปสินค้าหรูชาวจีนเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายหันมาซื้อสินค้าภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ที่เงินหยวนอ่อนค่าลงกว่า 5% ในปีนี้ ทำให้สินค้ามีราคาถูกลง และมาตรการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าหรูอย่างผิดกฎหมายของภาครัฐ
โดยนักช็อปชาวจีนคิดเป็นสัดส่วนถึงเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนนักช็อปสินค้าหรูทั่วโลก แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจสินค้าหรูในจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการปราบปรามคอร์รัปชั่น ทำให้บริษัทแอลวีเอ็มเอช เจ้าของแบรนด์สินค้า ‘หลุยส์ วิตตอง’ ต้องปิดร้านค้าบางแห่งตามเมืองใหญ่ในประเทศจีน
ขณะเดียวกันร้านค้าบางแห่งเริ่มปรับกลยุทธ์ด้วยการตั้งราคาไม่ให้สินค้าที่จำหน่ายในประเทศจีนต่างกับในต่างประเทศมากเกินไป เพื่อจูงใจให้หันมาซื้อสินค้าในประเทศมากยิ่งขึ้น
——————————–
ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์หลายรายประกาศความร่วมมือสร้างฐานข้อมูล ‘ลายนิ้วมือดิจิตอล’ เพื่อใช้ป้องกันและปราบปรามภาพหรือวิดีโอที่มีเนื้อหาล่อแหลมในทางก่อการร้าย
โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มในต้นปี 2560 เป็นความร่วมมือระหว่างสื่อสังคมออนไลน์อย่าง เฟซบุ๊ก ไมโครซอฟต์ ทวิตเตอร์ และยูทูป เนื่องจากมีความกังวลว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายใช้สื่อออนไลน์ ในการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ
ภายใต้ความร่วมครั้งนี้ ผู้ประกอบการจะแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันในส่วนของภาพหรือวิดีโอกลุ่มเสี่ยงที่เคยลบออกจากระบบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทำผิดนโยบายด้านเนื้อหาของแต่ละบริษัท เพื่อนำไปใช้อ้างอิงเมื่อพบการแชร์เนื้อหาลักษณะดังกล่าว ก็จะนำไปสู่การลบเนื้อหาออกโดยอัตโนมัติ
——————————-
สายการบินประจำภูมิภาคเอเชียบางแห่งอาจยกเลิกให้บริการเครื่องดื่มและความบันเทิงบนเครื่องบินฟรีระหว่างการเดินทาง หลังราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้น
โดยนอกจากยกเลิกให้บริการทั้งสองอย่างแล้ว ทางสายการบินยังมีแผนลดค่าใช้จ่ายด้วยการยกเลิกเส้นทางบินที่ไม่สร้างกำไร, ปลดระวางเครื่องบินที่กินน้ำมัน และเพิ่มราคาตั๋วโดยสาร
สาเหตุที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ ‘โอเปก’ ที่มีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการลดอัตราการผลิตน้ำมันลงมาอยู่ที่ 32.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน