นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยแผนส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยปี 2560 ว่า ททท. ยังคงนำเสนอจุดแข็งเรื่องการท่องเที่ยววิถีไทย ที่มีจุดเด่นแตกต่างจากประเทศอื่น และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตไทยแบบดั้งเดิม โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศ จะเน้นให้การใช้จ่ายต่อการเดินทางแต่ละครั้งเพิ่มขึ้น ด้วยการจับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 10% หรือคิดเป็นรายได้ 1.89 ล้านล้านบาท ขณะที่ตลาดในประเทศ จะเน้นกระตุ้นคนไทยให้เดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 10% เช่นกัน คิดเป็นรายได้ 9.5 แสนล้านบาท และทำให้รายได้รวมของการท่องเที่ยวปี 2560 เพิ่มขึ้น 10% อยู่ที่ 2.84 ล้านล้านบาท ซึ่งด้วยกลยุทธ์การท่องเที่ยววิถีไทยนั้น จะทำให้สามารถต่อยอดนำเสนอสินค้าที่ผูกโยงกับวิถีไทย สร้างรายได้ให้ท้องถิ่นและเศรษฐกิจฐานรากเกิดความเข้มแข็ง สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างคนในท้องถิ่นกับการท่องเที่ยว นำไปสู่ความยั่งยืนทางในอนาคต
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของตลาดในประเทศ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มเจนเนอร์เรชั่นวาย กลุ่มผู้หญิง และกลุ่มผู้สูงวัย ผ่านโครงการ “ประกาศศักดา ท้าเที่ยวข้ามภาค” ให้เกิดการเดินทางแลกเปลี่ยนพื้นที่ท่องเที่ยวและกระจายนักท่องเที่ยวไปทุกภูมิภาค ผ่านแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ , รวมทั้งกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดาด้วยแนวคิด “เที่ยวได้งาน” เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน ช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ อาทิ การเดินทางศึกษาดูงาน การประชุมนอกสถานที่ทำงาน , พร้อมต่อยอดโครงการ “12 เมือง ต้องห้าม … พลาด Plus” ให้เกิดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงและกระจายไปยังเมืองรอง ส่วนการเจาะตลาดกลุ่มศักยภาพสูงเพื่อเพิ่มการใช้จ่ายนั้น จะมุ่งเจาะกลุ่มผู้สูงวัยและกลุ่มผู้หญิง ที่มีรายได้ต่อเดือน 45,000 บาทขึ้นไป ผ่านแคมเปญ “เก๋ายกก๋วนชวนเที่ยว” นำเสนอรูปแบบการทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อน สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ หรือทบทวนความสนุกสนานที่เคยผ่านมา ด้วยการนำเสนอแพ็คเกจ อาทิ แพ็คเกจเก๋าเล่าว่า แพ็คเกจเก๋ากินแหลก แพ็คเกจเก๋าชวนตี ซึ่งเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ และ เก๋า Market เกี่ยวกับงานแสดงของสะสม กิจกรรมเปิดแผ่นเสียง กิจกรรมเต้นรำ ส่วนกลุ่มผู้หญิง นำเสนอแคมเปญพิเศษ “สตรีอย่าหยุดเที่ยว” นำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวให้เป็นเสมือนรางวัลแห่งชีวิต รวมถึงแพ็คเกจเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้หญิง อาทิ Lady Bike , Lady Run เป็นต้น ส่วนกลุ่มเจนเนอร์เรชั่น วายนั้น ถือเป็นนักท่องเที่ยวพลังใหม่ ที่จะช่วยสร้างกระแสการท่องเที่ยวผ่านพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย สามารถนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวในแบบของตัวเองไปสู่วงกว้างได้เป็นอย่างดี
ขณะที่การส่งเสริมตลาดต่างประเทศ ททท. เน้นการเติบโตของรายได้มากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยว จึงกำหนดทิศทางการทำการตลาดแบบเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน ได้แก่การเจาะกลุ่มตลาดใหม่ เช่น กลุ่มมุสลิม กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ การขยายฐานตลาดที่มีศักยภาพในการใช้จ่าย โดยขยายฐานตลาดกลุ่มรายได้ต่อคนตั้งแต่ 20,000 เหรียญสหรัฐ/คน/ปี ขึ้นไป ด้วยนำเสนอสินค้า luxury และ creative tourism เป็นจุดดึงดูดให้เกิดการใช้จ่าย ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาฐานตลาดเดิมที่มีศักยภาพในการใช้จ่าย อาทิ กลุ่มผู้หญิง กลุ่มครอบครัว และกลุ่ม Baby Boomer และการให้ความสำคัญการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศในกลุ่มอาเซียน ดึงตลาดยุโรปและอเมริกาให้เข้ามาท่องเที่ยวไทยแบบเชื่อมโยงในเส้นทาง ASEAN Connectivity และการเดินทางท่องเที่ยวกันเองในกลุ่ม CLMV
