คนไทยมีแนวโน้มโสดเพิ่มขึ้นทั้งชายและหญิง! เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ หากดูตัวเลขจากสำมะโนประชากร ว่ามีคนที่อยู่เป็นโสดก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ข้อมูลจากสำมะโนประชากร ผู้หญิงไทย (ช่วง 45-54 ปี) ที่ไม่เคยสมรส ปี 2523 ร้อยละ 4.23 , ปี2533 ร้อยละ 5.33 , ปี2543 ร้อยละ 7.01 และปี2553 ร้อยละ 8.80
ส่วน ผู้ชายไทย (ช่วง 35-39 ปี) ที่ไม่เคยสมรส ปี 2523 ร้อยละ 5.24 ,ปี2533 ร้อยละ 9.78 , ปี2543 ร้อยละ 11.68 และปี2553 ร้อยละ 21.57 ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน และผู้ชายไทย (ช่วง 40-44 ปี) ไม่เคยสมรส ปี 2523 ร้อยละ 3.56 , ปี2533 ร้อยละ 4.78 , ปี2543 ร้อยละ 6.77 , ปี2553 ร้อยละ 13.63 ซึ่งในประชากรทั้งชายและหญิงมีแนวโน้มไม่สมรสรวมทั้งโสดมากขึ้น
ผศ.ดร.วิราภรณ์ โพธิศิริ อาจารย์ประจำวิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าจากการสำรวจและลงพื้นที่สอบถามความเห็น จะพบว่าในผู้หญิงอายุ40ปีขึ้นไป เมื่อถามว่าทำไมถึงไม่แต่งงาน ? คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่คือ “ยังไม่เจอคนที่ใช่” และจากการสำรวจก็พบว่า “การตัดสินใจ” ของคนกลุ่มเหล่านี้ว่าจะอยู่เป็นโสดหรือไม่ ผลปรากฎว่าเขามีกระบวนการของการคิดว่าจะอยู่เป็นโสด โดยจะชั่งน้ำหนักแล้วว่าข้อดี ข้อเสียของการแต่งงานคืออะไร ที่สำคัญมีการสะท้อนออกมาว่าการแต่งงานจะต้องไม่ทำให้เขามีความสุขลดลงหรือชีวิตต้องยากลำบากกว่าเดิม
แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าคือ พบว่าคนที่เป็นคนโสด อายุ30-59 ปี มีคนที่คิดและเตรียมการในการวางแผนชีวิตไว้แล้วเพียง30-50% โดยอันดับหนึ่งที่เตรียมการ คือเรื่องของเงิน สูงถึง58% แต่นั่นก็หมายความว่าอีกครึ่งหนึ่งไม่ได้เตรียม ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง รองลงมาที่เตรียมตัวคือเรื่องสุขภาพมีการออกกำลังกายมีการเปลี่ยนลักษณะการกินอาหาร เป็นต้น แต่ส่วนอื่นๆ เช่น จะใช้ชีวิตอย่างไร ใครจะดูแล การเตรียมสภาพจิตใจ การศึกษากฏหมายและสิทธิผู้สูงอายุ การสำรวจพบว่าเรื่องพวกนี้มีแค่ประมาณ28%ที่ได้เตรียมการและอีก70กว่าเปอร์เซ็นต์ไม่ได้คิดไว้นี่คือเรื่องน่าเป็นห่วงในหญิงไทยเป็นอย่างมาก! ผศ.ดร.วิราภรณ์ กล่าว
ติดตามเรื่องราวรายงานเรื่องความโสดเต็มรูปแบบได้ที่
