สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ส่งเสริมความรู้นายจ้างและลูกจ้าง ออมเงินและลงทุนอย่างถูกวิธี มีเงินเก็บใช้จ่ายหลังเกษียณ
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กล่าวในงาน SEC Retirement Savings Symposium 2017 ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ว่า ในปี 2568 ไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุสูงถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด การออมเงินเพื่อใช้จ่ายหลังเกษียณจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ พีวีดี ซึ่งเป็นการออมภาคสมัครใจที่จัดตั้งมากว่า 30 ปี แต่มีสมาชิกเพียง 3 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 21.5 ของแรงงานในระบบ โดยมีจำนวนนายจ้างประมาณ 17,000 บริษัท หรือร้อยละ 2.8 เท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่า ร้อยละ 50 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด มีเงินก้อนในวัยเกษียณไม่ถึง 1 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับใช้จ่ายหลังเกษียณ ซึ่งงานวิจัยระบุว่า ต้องมีเงินอย่างน้อย 2,100,000 ถึง 3,300,000 บาท
ก.ล.ต. และพันธมิตร ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และ บลจ. ที่ให้บริการพีวีดี จึงร่วมมือกันกระตุ้นและให้ความรู้นายจ้างและลูกจ้าง ให้เห็นความสำคัญของความเพียงพอของเงินออมเพื่อเกษียณผ่านพีวีดี โดยเน้นการเข้าถึงนายจ้าง และจัดทำเครื่องมือวางแผนเกษียณที่ทันสมัย เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนทำงาน เพื่อให้นายจ้างนำไปต่อยอดให้ความรู้กับสมาชิก