ถึงแม้ว่าเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น จะปรับลดการระบายน้ำลงจากที่เคยสูงสุด 54 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปัจจุบันระบายน้ำออก 48 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งพื้นที่ท้ายน้ำยังคงได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะจังหวัดมหาสารคามมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฏรใน 3 ตำบล ประกอบด้วย อำเภอโกสุมพิสัย อ.กันทรวิชัย และ อ.เมืองมหาสารคาม
ที่บ้านปลาปัด หมู่ 3 ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ระดับน้ำในแม่น้ำชีได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้าน 120 ครัวเรือน ประชากรกว่า 500 คน ได้รับความเดือดร้อน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่ชั้นสองของบ้าน บางส่วนที่เป็นบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพมานอนที่เต็นท์หน้าหมู่บ้าน ซึ่งทาง อบต.ยางท่าแจ้ง จัดไว้ให้ โดยมีชาวบ้านอพยพมานอนที่เต็นท์จำนวน 25 ครัวเรือน ซึ่งชาวบ้านที่จะเดินทางเข้าหมู่บ้าน ต้องพายเรือเข้าไป หรือชักลากเรือท้องแบนระยะทางกว่า 250 เมตร ฝ่ากระแสน้ำที่บางช่วงไหลเชี่ยวเข้าไปภายในหมู่บ้าน
นายกฤษฏา เถื่อนนาดี ผู้ใหญ่บ้านปลาปัด หมู่ 3 ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคม น้ำชีได้เอ่อเข้าท่วมหมู่บ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง จนน้ำลดลงเป็นปกติ ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมาระดับน้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่อีกครั้ง เป็นรอบที่สอง ซึ่งครั้งนี้น้ำมามากกว่าเดิม เพราะเป็นผลมาจากการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งชาวบ้านที่จะเข้าออกหมู่บ้าน ส่วนใหญ่มีเรือส่วนตัว เพราะเคยประสบกับน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 มาแล้ว บางส่วนที่ไม่มีเรือ ก็ต้องใช้เรือท้องแบนที่ทาง ปภ.จัดไว้ให้ ชักลากเชือกดึงฝ่ากระแสน้ำเพื่อใช้เข้าออกหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 250 เมตร โดยระดับน้ำลึกอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร
ทั้งนี้ ชาวบ้านอยากได้ห้องน้ำเพิ่มเติม เนื่องจากชาวบ้านที่อพยพขึ้นมาพักอาศัยอยู่ที่เต็นท์หน้าหมู่บ้าน มีห้องน้ำใช้เพียงห้องเดียว ซึ่งไม่เพียงพอ ส่วนน้ำอุปโภคบริโภค ทาง อบต.ยางท่าแจ้ง ได้นำรถน้ำมาเติมน้ำให้ที่ถังกลางของหมู่บ้าน ส่วนถุงยังชีพ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้นำมาแจกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้สิ่งที่อยากให้ดูแลมากที่สุด คืออยากให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาให้กำลังใจกับชาวบ้าน เพราะตอนนี้ชาวบ้านหลายคนเริ่มมีความเครียด เพราะผลผลิตด้านการเกษตรได้รับความเสียหาย จึงอยากให้มาดูแลให้กำลังใจ พร้อมทางแนวทางเยียวยากันต่อไป
