ที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.ชลบุรี มีประชาชนจำนวนมากได้มารวมตัวเรียกร้องให้ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ลาออก เนื่องจากไม่พอใจที่ทางจังหวัดบริหารจัดการการวางดอกไม้จันทน์หน้าพระเมรุมาศจำลอง ที่บริเวณสนามหน้า ศาลากลางจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2560 ที่ผ่านมา
โดยประชาชนระบุว่าได้ไปรอต่อแถวเพื่อร่วมงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น โดยให้ข้าราชการที่แต่งชุดขาวที่วางดอกไม้จันทน์ในช่วงเช้าไม่ทัน สามารถวางดอกไม้จันทน์ในช่วงบ่าย โดยไม่สนใจประชาชน โดยเฉพาะยิ่งในช่วงบ่าย ไม่มีข้าราชการมาตรวจดูการต่อแถวของประชาชนปล่อยให้แถวยาวเป็นงูกินหางเป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร โดยแต่ละคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างไม่พอใจการทำงานของผู้เกี่ยวข้องกับการจัดงานในครั้งนี้ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการ นายภัครธรณ์ เทียนไชย
ซึ่งต่อมา นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นงานราชพิธี ทางจังหวัดชลบุรี ได้จัดเตรียมการเป็นอย่างดี แต่เนื่องจากในวันดังกล่าวในช่วงบ่ายมีประชาชนมากันเป็นจำนวนมาก โดยกำหนดการของพิธีการ ทางจังหวัดได้จัดเตรียมพานไว้ให้ประชาชนวางครั้งละ 4 คน บนพระเมรุมาศจำลอง จึงทำให้ล่าช้า ทางจังหวัดจึงเพิ่มเป็น 8 พาน ก่อนที่จะหยุดในเวลา 15.00 น. เพื่อประกอบพิธีสงฆ์ จากนั้นในเวลา 19.00 น. ทางจังหวัดได้เพิ่มเป็น 20 พาน ประชาชนก็ได้เข้าวางดอกไม้จันทน์ได้เร็วตามลำดับ ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ต้องขอกราบขออภัยพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดชลบุรี ที่ในวันดังกล่าวพี่น้องประชาชนไม่ได้รับความสะดวกอย่างที่ควร พร้อมยืนยันว่าได้เปิดให้ประชาชนได้วางดอกไม้จันทน์ครบถ้วนทุกคน และเสร็จสิ้นในช่วง 01.00 น.
ขณะเดียวกันได้มีประชาชนร่วมลงชื่อในเว็บไซต์ www.change.org โดยหัวข้อแคมเปญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ควรออกมารับผิดชอบเรื่องงาน ถวายดอกไม้จันทน์ ที่ อ.เมืองชลบุรี ซึ่งล่าสุดมีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว 3,800 คน
ขณะที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นี้ว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบและพบความไม่พอใจของประชาชนใน 3 ส่วน คือ กรณีที่มีกระแสข่าวว่าใช้งบประมาณลงไป 20 ล้านบาทในการจัดสถานที่วางดอกไม้จันทน์นั้น ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้จัดสรรงบในส่วนดังกล่าว มีเพียงงบการจัดสร้างพระเมรุมาศจำลองและพระจิตกาธานเท่านั้น ส่วนเรื่องที่2 ที่ระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีมาสายนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลจาก กรมการปกครอง และฝ่ายทหาร พบว่าผู้ว่าฯราชการจังหวัดมาร่วมพิธีตั้งแต่เช้า ส่วนเรื่องที่ 3 การจัดแถวไม่เหมาะสมนั้น ส่วนตัวไม่อยากก้าวล่วง เพราะไม่อยากให้ประเด็นสำคัญของพระราชพิธี ถูกนำมาสร้างเป็นความขัดแย้ง และต้องยอมรับว่า มีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากเกินกว่าสถานที่จะรองรับได้ และเกินกว่าที่กองอำนวยการร่วมฯ ได้แจ้งไว้ โดย 878 แห่ง ทั่งประเทศ ก็มีประชาชนหนาแน่นเกือบทุกที่ จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจ
ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนที่หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ถึงการแซงคิวของข้าราชการในพื้นที่นั้น ขออย่านำเรื่องนี้เข้ามาเป็นประเด็นขัดแย้ง เพราะทุกจังหวัดมีคณะกรรมการในการจัดงาน มีระยะเวลา ขั้นตอนว่าใครจะเริ่มวางก่อน บางจังหวัดก็มีพระผู้ใหญ่เริ่มก่อน รวมถึงข้อกำหนดชัดเจน ซึ่งในพื้นที่จะไม่มีใครสั่งการเป็นเจ้าของงานแน่นอน จึงไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นขอให้จบด้วยความสวยงามของคนทั้งชาติถวายความจงรักภักดี โดยหลังจากนี้เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรระหว่างประชาชนกับผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้ทำความเข้าใจในข้อเท็จจริง
